หากคุณเดินทางไปต่างประเทศเมื่อเร็วๆ นี้ คุณอาจจะได้พบกับบุคคลในหลายๆ สนามบินของสหรัฐอเมริกา ที่จะขอให้ผู้โดยสารมารับการตรวจหาเชื้อไวรัส โควิด-19 การตรวจหาเชื้อเหล่านี้เป็นวิธีการที่น่าประหลาดใจที่จะช่วยเฝ้าระวังว่ามีไวรัสโควิด-19 เข้ามาในประเทศสหรัฐอเมริกามากน้อยเพียงใด ผ่านผู้โดยสารที่เดินทางมา พร้อมกับติดตามสายพันธุ์ไวรัสที่เข้ามาด้วย

ก่อนเข้าสู่ฤดูเทศกาลเดินทางที่คับคั่ง โปรแกรมนี้ซึ่งดําเนินการโดย ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพชื่อ Concentric by Ginkgo Bioworks ที่ตั้งอยู่ในบอสตัน และ XpresCheck ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการตรวจหาและรับผู้โดยสารมาตรวจหาเชื้อ กําลังขยายขอบเขตการตรวจให้รวมถึงไวรัสอื่นๆ นอกเหนือจาก SARS-CoV-2 นับตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา โปรแกรมนี้ได้เริ่มตรวจหาสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่และ RSV ในสัดส่วนของตัวอย่างที่ได้มาจากผู้โดยสาร ส่วนในอนาคต โปรแกรมนี้จะขยายการตรวจให้ครอบคลุมเชื้อโรคอื่นๆ อีก 30 ชนิด

ตั้งแต่โปรแกรมนี้เริ่มต้นดําเนินการในปี 2021 โปรแกรมติดตามพันธุกรรมของเชื้อโรคจากผู้โดยสาร (TGS) ได้ให้ข้อมูลสําคัญเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันผู้คนมักใช้การตรวจหาเชื้อที่บ้าน มากขึ้น โดยไม่ต้องรายงานผล ประมาณ 6,000 คนต่อสัปดาห์ที่เดินทางมายัง 7 สนามบินสําคัญระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา จะได้รับการตรวจหาเชื้อโดยวิธีอาสาสมัคร พวกเขาจะให้ข้อมูลพื้นฐานที่ไม่เปิดเผยตัวตน เช่น จุดหมายปลายทางของเที่ยวบิน ประเทศที่รวมอยู่ในเส้นทางการเดินทาง และตอบคําถามเกี่ยวกับสถานะการฉีดวัคซีน อายุ และว่ามีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลใดบ้างที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ล่าสุด พวกเขาจะได้รับคําถามเกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่และ RSV ด้วย

จนถึงปัจจุบัน โปรแกรมนี้ได้ลงทะเบียนผู้โดยสารมากกว่า 360,000 คน และวิเคราะห์พันธุกรรมของตัวอย่างเชื้อโรคมากกว่า 14,000 ตัวอย่าง โดยเผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้สู่ฐานข้อมูลพันธุกรรมสาธารณะ เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขติดตามสถานการณ์ได้ดีขึ้น TGS เป็นผู้ตรวจพบกรณีแรกของสายพันธุ์ BA.2.86 ที่เข้ามาในสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือน สิงหาคม จากผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศญี่ปุ่นลงที่สนามบินดัลเลส ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งเป็นกรณีแรกนอกจากเดนมาร์กและอิสราเอลที่พบสายพันธุ์นี้

“เรามีความสําเร็จในโปรแกรมนี้เป็นอย่างดี” ดร.ซินดี ไฟรด์แมน หัวหน้าฝ่ายสุขภาพผู้โดยสาร ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคกล่าว “ผู้โดยสารสามารถช่วยเราในการตรวจพบช่องว่างของการติดตามโรคระหว่างประเทศ เนื่องจากพวกเขาแพร่เชื้อโรคขณะเดินทาง ให้เรามีภาพรวมของเชื้อโรคที่เข้ามาในประเทศก่อน พวกเราไม่ต้องรอจนกระทั่งมีผู้ป่วยแล้วไปตรวจ