จากกรณีมีดราม่า มีการถ่ายทำโฆษณาในสระมรกต ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประบางคราม ซึ่งเป็นการใช้เสาเหล็กไปตั้งในสระ อาจเป็นการกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และกระทบต่อนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่นั้น
- อ้าวยังไง ดราม่ากองถ่ายเกาหลี ปักเสาเวทีลงใน “สระมรกต” เพจโพสต์ยันขออนุญาตแล้ว
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบเรื่องนี้ที่สระมรกต ต.คลองท่อมเหนือ อ.คลองท่อม ซึ่งพบว่าวันนี้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมายังสถานที่ดังกล่าวเพื่อเล่นน้ำ ชมความสวยงามของสระมรกต ซึ่งเป็นหนึ่งในอันซีนไทยแลนด์ โดยทาง นายปิยะวัฒน์ สุคนธ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม ชี้แจงเรื่องนี้ว่า กรณีที่เป็นข่าวที่ประชาชนในพื้นที่มีความกังวลเรื่องผลกระทบต่อธรรมชาติ จากภาพที่เป็นท่าน้ำยื่นลงไปในสระน้ำ
หากดูตามภาพจะเป็นการเซ็ตอุปกรณ์ ไม่ใช่อุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายทำจริง เป็นท่าน้ำไม่ใช่เวที ยื่นลงไปในสระประมาณ 3 เมตร กว้าง 1 เมตร แต่ในวันนี้เป็นการใช้อุปกรณ์จริงก็จะยื่นล้ำลงไปประมาณ 1 เมตรเท่านั้น ส่วนตัวฐานรองจะมีแป้นฐานรองรับ ไม่ได้ปักเสาลงไปในพื้นสระโดยตรง ส่วนพื้นสระเองก็เป็นหินปูนที่มีความแข็งแรงระดับหนึ่ง ส่วนสะพานที่ยื่นออกมาก็ไม่ได้รับน้ำหนักมาก เพราะ 90 เปอร์เซ็นต์จะอยู่บนพื้นดิน เป็นฐานรองรับความยาวของเครน และระบบกล้อง แต่ยอมรับว่าภาพที่ออกมาอาจจะมองดูไม่สวย
ส่วนเรื่องผลกระทบเรื่องพื้นหิน หรือขอบสระ จากการควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่ยังไม่พบว่ามีผลกระทบใดๆ จุดที่ติดตั้งอุปกรณ์ก็เป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวใช้ขึ้นลงปกติอยู่แล้ว ในส่วนของการขออนุญาตนั้น นายปิยะวัฒน์ เผยว่า กองถ่ายดังกล่าวเป็นของ บ.เธอร์ตี้ ซิกส์ โปรดักชั่น จำกัด เป็นการถ่ายภาพยนตร์โฆษณาของครีมในประเทศเกาหลี ได้รับอนุญาตมาจากกรมการท่องเที่ยว และอนุญาตจากกรมอุทยานฯ ที่อนุญาตให้ถ่ายทำตั้งแต่วันที่ 7-9 ม.ค. ถูกต้อง ส่วนเขตรักษาพันธุ์ฯ จะมีหน้าที่คอยควบคุมดูแลให้ถ่ายทำภายใต้ระเบียบ ซึ่งเราจัดเจ้าหน้าที่ดูแลใกล้ชิดไม่ให้กระทบต่อธรรมชาติแน่นอน
ส่วนนักท่องเที่ยวเราติดป้ายแจ้งขออภัยในความไม่สะดวกไว้แล้ว โดยจะจัดโซนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาได้ปกติ ไม่ได้ห้ามลงเล่นน้ำ แค่ขอความร่วมมือว่าช่วงที่มีการถ่ายทำ ให้ช่วยหลบมุมกล้องให้เค้านิดนึง แค่ขอความร่วมมือเป็นบางช่วงเท่านั้น
หากมองในมุมการส่งเสริมการท่องเที่ยว ถือเป็นประโยชน์เพราะจะทำให้สถานที่ของเราเป็นที่รู้จักของคนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้การยกทีมถ่ายทำมาประมาณกว่า 100 คน ก็ยังสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่ด้วย ทั้งเรื่องที่พัก ร้านอาหาร ซึ่งทราบว่าเค้าใช้งบถ่ายทำร่วม 10 ล้าน เป็นเงินเข้าประเทศเรา
ด้านผู้ประกอบการท่องเที่ยวรายหนึ่ง ให้ความเห็นด้วยว่า ทางเขตรักษาพันธุ์ฯ น่าจะจัดแบ่งเวลาการถ่ายทำให้ชัดเจนโดยแจ้งให้ผู้ประกอบการรับทราบด้วย ทางผู้ประกอบการจะได้จัดสรรเวลาเข้าออกได้ถูกต้อง นอกจากนี้เรื่องของนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศ เค้าก็อยากเข้ามาถ่ายรูปกับป้ายของสระมรกต ซึ่งไม่สามารถถ่ายได้เพราะเป็นจุดที่กองถ่ายตั้งอยู่ จึงอยากให้จัดพื้นที่ให้ นักท่องเทียวทั่วไปได้มีโอกาสเข้ามาถ่ายภาพด้วย เพราะบางคนก็มีโอกาสมาเพียงครั้งเดียว เค้าก็ตั้งใจจะมาถ่ายรูปด้วย