ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เมื่อวันศุกร์ (16 ก.ย.) ไปยังบ้านที่ ด.ช.นพศิลป์ หรือน้องโชค อาศัยอยู่กับยายทั้งสองคน ซึ่งก็คือ นางนันท์ภัส ชโยด อายุ 57 ปี หรือยายเล็ก

ยายเล็กเผยว่า ยังคงติดใจสงสัยถึงสาเหตุที่เพื่อนทำปืนลั่นใส่ว่าเป็นอุบัติเหตุหรือเจตนายิงใส่น้องกันแน่ โดยหยิบเสื้อนักเรียนของหลานให้ผู้สื่อข่าวดูว่ามีรอยฉีดขาด ก่อนวันที่น้องจะเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น

ส่วนบรรยากาศในวันนี้ทั้งครอบครัวได้นั่งดูข่าวเกี่ยวกับน้องโชคด้วยกันและต่างคนก็มีความสงสัยถึงสาเหตุการทำปืนลั่นใส่น้องหรือว่าตั้งใจยิงใส่หลานของตนกันแน่

ยายเล็ก กล่าวว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุ ประมาณวันที่ 2 ก.ย. ตนเห็นหลานตัวเองกลับมาจากโรงเรียนในสภาพที่เสื้อนักเรียนขาดรุ่งริ่ง กระดุมหลุดทุกเม็ด และติดเข็มกลัดแทนกระดุมมาทั้งหมด ตอนนั้นตกใจมากสอบถามหลานว่าไปโดนอะไรมา แต่หลานไม่ได้พูดอะไร ยิ้มให้อย่างเดียวเหมือนเขาไม่อยากให้เรารู้เรื่อง

เหตุนี้ ทำให้ตนสอบถามทางคุณครูเปิ้ล เพราะเป็นครูที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้น ว่าน้องไปโดนอะไรมา ทางครูที่โรงเรียนบอกว่าเพื่อนน้องที่โรงเรียนสะดุดล้มจึงคว้าเสื้อน้องโชคไว้จนทำให้เสื้อขาด ตอนแรกตนก็กลัวว่าน้องจะไปมีเรื่องหรือโดนใครทำร้ายมา แต่ครูก็บอกว่าน้องไม่ได้ไปมีเรื่องทะเลาะหรือชกต่อยกับใคร เพราะน้องเป็นเด็กดี

ยายเล็ก พูดต่อไว่า ตอนแรกตนคิดว่าการที่เสื้อหลานขาดนั้นน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่หลานของตนเสียชีวิตในครั้งนี้ ไม่รู้ว่าจะเป็นปัญหาสืบเนื่องกันมาตั้งแต่ครั้งนั้นรึเปล่า แต่เมื่อวานนี้ตนก็ได้โทรไปสอบทางกับทางครูเปิ้ลอีกครั้งว่าเรื่องในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเรื่องราวในครั้งนั้นด้วยรึเปล่า แต่ทางครูก็บอกกับตนว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เกี่ยวกันกับเรื่องที่เสื้อน้องขาดครั้งที่แล้ว ตนเคยพยายามถามหลานตัวเองอยู่ตลอดเวลาเพราะห้องนี้มันมีปัญหามาตั้งแต่แรกแล้ว เขาพกปืนมาโรงเรียนตนก็พยายามถามหลานเราหลายรอบว่าไปยุ่งไปเกี่ยวอะไรกับเขาด้วยไหม แต่หลานตนก็บอกว่าไม่เกี่ยวกันคนละกลุ่มกัน แต่พอมาเกิดเรื่องกับหลานเรา ตนก็เลยสับสนว่ามันเกิดเรื่องอะไรกันแน่