เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 16 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อตรวจสอบกรณีเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00 น. เกิดเหตุทะเลาะวิวาทที่บริเวณหน้าโรงพักติดกับหน้าเสาธง เป็นเหตุให้ นายสุ (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี เสียชีวิต ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายชัย (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี
ส่วนสาเหตุของการทะเลาะวิวาทในครั้งนี้มาจาก น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุประมาณ 30 ปี ภรรยาผู้ตาย แอบไปคบหาเชิงชู้สาวกับนายชัย ก่อนเกิดเหตุนายสุได้ไปตาม น.ส.บี ที่บ้านของนายชัย จึงปากเสียงเเละกระทบกระทั่งกัน ก่อนนำตัวไกล่เกลี่ยที่โรงพัก เเต่เรื่องไม่จบ ทั้งคู่เปิดศึกซัดกันอีกรอบ ฝ่ายสามีล้มฟุบกู้ภัยเร่งปั๊มหัวใจนานกว่า 20 นาที สุดท้ายแน่นิ่ง เสียชีวิตในเวลาต่อมา คู่กรณีรอมอบตัว
นายสุพัฒน์ อารยรุ่งโรจน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ต. บางใหญ่ อ. บางใหญ่ จ. นนทบุรี กล่าวว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ตนได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่ามีเหตุทะเลาะวิวาท และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณเสาธงชาติหน้า สภ.บางแม่นาง จึงเดินทางมาตรวจสอบ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังช่วยกันปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิตนายสุ แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเอาไว้ได้ ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบถามคนเห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายพร้อมด้วยภรรยาและนายชัย มีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องหึงหวง แต่ไม่สามารถเคลียร์ใจกันได้ จึงเดินทางมาที่โรงพักให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย หลังพูดคุยกันเสร็จทั้ง 3 คน ได้เดินลงมาจากโรงพัก ก่อนจะมีปากเสียงกันอีกครั้งจนถึงขั้นชกต่อยกัน แต่ผู้ตายพลาดท่าเสียหลักล้มลงไปนอนกองกับพื้นหายใจรวยริน ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนสาเหตุการทะเลาะวิวาทจนถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ มาจากพฤติกรรมของภรรยาของผู้ตาย แอบนอกใจคบชายอื่นมานานหลายปี พอผู้ตายทราบเรื่องก็จะหึงหวงและตามไปต่อว่ามาตลอด จนกระทั่งมาเสียชีวิตในครั้งนี้
ทางด้าน นางวัน (นามสมมุติ ) อายุ 49 ปี เเม่ของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ฝ่ายหญิงจะไปๆ มาๆ ที่บ้านเป็นประจำและสามีของเขาก็มาตามกลับบ้านตลอด ที่ผ่านมาตนก็รู้ว่าฝ่ายหญิงมีลูกมีสามีแล้ว เพราะเห็นกันมาตั้งแต่เขายังเด็กๆ ซึ่งตนก็บอกตลอดว่าให้กลับไปอยู่กับครอบครัว ซึ่งลูกชายของตนก็ไล่กลับ แต่ฝ่ายหญิงก็ยังจะมาอีก และไม่ยอมกลับไปหาครอบครัว ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นตนไม่รู้ว่ามาจากเรื่องอะไร เพราะออกไปขายของ
ซึ่งตอนนั้นฝ่ายชายมาตามเมียที่บ้านของตน และเดินเข็นรถ จยย.ออกไปพร้อมกันทั้ง 3 คน หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงรถหวอวิ่งและก็หยุดแถวหน้าปากซอยบ้าน ตอนนั้นรู้สึกใจไม่ดี จนกระทั่งมารู้อีกทีว่าลูกชายมาที่โรงพักและและเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ปกติลูกชายไม่ได้มีนิสัยเกเร ขยันทำมาหากิน เก็บหอยขายเอาเงินมาส่งค่ารถ เสียแค่เรื่องดื่มเหล้าอย่างเดียว หลังจากนี้ตนก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อเพราะไม่มีเงินประกันตัวลูกชาย
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยไม่มีเจตนาฆ่า จากนั้นควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป