จบด้วยดี ดราม่าฝากเงินแสน หาย 1 หมื่น ธนาคารหอบกระเช้าขอโทษลูกค้า ยอมรับเป็นความผิดพลาดของพนักงาน

จากกรณีนายสาวถี อายุ 54 ปี พ่อค้าขนมไทย นำเงิน 1 แสนบาท ไปฝากธนาคาร สาขาบ้านท่าตูม ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 แต่พอช่วงค่ำเจ้าหน้าที่ได้โทรศัพท์มาแจ้งว่าเงินฝากมีแค่ 9 หมื่นบาท และเดินทางมาบ้านให้ลงชื่อยินยอมถอนเงินออกจากบัญชี 1 หมื่นบาท แต่นายสาวถีและลูกไม่ยินยอม ต่างยืนยันว่าช่วยกันนับหลายครั้งก่อนนำไปฝาก

ต่อมา วันที่ 30 สิงหาคม นายนิพนธ์ ลูกเขย ได้ไปแจ้งความที่ สภ.นาข่า ไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเดินทางไปขอดูกล้องวงจรปิดที่ธนาคารตอนนำเงินไปฝากและนั่งรอจนพนักงานนำเงินเข้าระบบ แต่พนักงานก็ยังยืนยันว่าเงินไม่ครบ หากเงินไม่ครบทำไมเจ้าหน้าที่ไม่ทักท้วงตั้งแต่ครั้งแรก ปล่อยให้ผ่านไป 6-7 ชม. จึงคิดว่าผิดปกติ แถมพนักงานแบงก์ได้ไปแจ้งความเพื่อไกล่เกลี่ย ทำให้นายสาวถีคิดมาก เพราะกว่าจะขายขนมเก็บรวบรวมเงินได้ แต่จะรอไปพิสูจน์ในชั้นศาล

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เช้าวันที่ 6 กันยายน 2565 นายครรชิต สุวรรณดร ผช.ผอ.สำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ สาขาอุดรธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ เดินทางมาบ้านเพื่อพบกับ นายสาวถี กรณีความเข้าใจผิดการฝากเงินเข้าบัญชี 1 แสนบาท แล้วจะให้ลงชื่อยินยอมว่านำฝาก 9 หมื่นบาท ทำให้นายสาวถีไม่ยินยอม พร้อมยืนยันว่าฝากเงิน 1 แสนบาท และไม่สบายใจที่ธนาคารแจ้งความดำเนินคดี

โดยนายครรชิต กล่าวว่า เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน และเป็นการดำเนินการตามปกติของธนาคาร ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของพนักงานธนาคารเอง และไม่ได้แจ้งความเพื่อดำเนินคดี หรือฟ้องร้องนายสาวถีแต่อย่างใด แต่เป็นการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อตรวจสอบพนักงานในแบงก์ ค้นหาว่าเงินฝากหายไปได้อย่างไร ซึ่งวันนี้ได้นำของชำร่วยมามอบให้นายสาวถี เพื่อชดเชยความไม่สบายใจในช่วงเวลาที่ผ่านมา และขออภัยในความบกพร่องของธนาคาร 

  • ลุงเครียด ฝากเงิน 1 แสน ยอดขึ้นในสมุดแล้ว ตกค่ำธนาคารโทรแจ้งนับได้แค่ 9 หมื่น