• Klook อัดแคมเปญ “เที่ยวไหนไป Klook” กระตุ้นนักท่องเที่ยวไทย พร้อมเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรก “เก๋ไก๋สไลเดอร์” เสริมความแข็งแกร่งให้ฐานลูกค้ารุ่นใหม่ 
  • เผยยอดการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวในช่วงต้นปี พ.ศ. 2566 เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในทุกกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็น ต่างชาติเที่ยวไทย, ไทยเที่ยวนอก และ ไทยเที่ยวไทย 

Klook กระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวไทย อัดแคมเปญ “เที่ยวไหนไป Klook” พร้อมเปิดตัว “เก๋ไก๋สไลเดอร์” ยูทูบเบอร์ชื่อดังที่มีผู้ติดตามมากกว่า 16 ล้านคน ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของ Klook เพื่อเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้ฐานลูกค้ารุ่นใหม่ อีกทั้งยังเป็นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำมากยิ่งขึ้นในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย และเชื่อมโยงตัวตนของ Klook ไปยังกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้คุ้นเคยและจดจำ Klook ได้ดีมากยิ่งขึ้น  

มิเชล โฮ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย ฟิลิปปินส์และเวียดนาม บริษัทคลก ทราเวล เทคโนโลยี จำกัด ได้เปิดเผยว่า “Klook พร้อมรุกตลาดนักท่องเที่ยวไทยในช่วง High season เดือนมีนาคม-เมษายน ซึ่งเป็นเทศกาลสงกรานต์ โดยพบว่านักท่องเที่ยวไทยได้เริ่มเตรียมตัววางแผนท่องเที่ยวทั้งในไทยและต่างประเทศกันแล้ว การเปิดตัวแคมเปญและแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่นี้จึงนับเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะกระตุ้น สร้างแรงบันดาลใจและอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวไทยได้มีความสุขกับการเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้งผ่านการจองกิจกรรมท่องเที่ยวบนแพลตฟอร์ม Klook”

“นับเป็นครั้งแรกที่ Klook ใช้กลยุทธ์แบรนด์แอมบาสเดอร์ โดยเราเข้าใจและตระหนักดีว่า กลุ่มลูกค้าหลักของ Klook นั้นเป็นลูกค้ากลุ่มมิลเลนเนียลและเจนซี (Millennials & Gen Z) ซึ่งกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับสื่อโซเชียลมีเดียและคอนเท้นต์ที่ถูกจุดโดนใจ ดังนั้นการใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์ เก๋ไก๋สไลเดอร์ ผู้เป็นยูทูบเบอร์ชื่อดัง มาช่วยทำคอนเท้นต์และสื่อสารกับลูกค้า จะสามารถเชื่อมโยงแบรนด์ Klook กับลูกค้า ทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้นเคยและใกล้ชิดกับแบรนด์มากขึ้น โดยเก๋ไก๋สไลเดอร์​เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ ที่มีภาพลักษณ์ที่สดใส สนุกสนาน มีสีสัน จึงสามารถสะท้อนตัวตนของแบรนด์ Klook ได้เป็นอย่างดี”  มิเชล โฮ กล่าว 

นอกจากนั้น Klook ยังได้เปิดเผยยอดการเติบโตของธุรกิจที่สะท้อนให้เห็นถึงทิศทางที่สดใสของการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี โดยปัจจัยบวกสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศนั้นมาจากการที่หลายประเทศในแถบเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่น, ฮ่องกง และไต้หวัน ได้ประกาศนโยบายผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 4 พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา รวมถึงตลาดนักท่องเที่ยวที่สำคัญของไทยได้แก่จีน ก็ได้ประกาศยกเลิกข้อจำกัดเรื่องการเดินทางข้ามประเทศในช่วงต้นปี พ.ศ. 2566 นับเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับตลาดต่างชาติเที่ยวไทยเป็นอย่างมาก 

โดยข้อมูลภายในของ Klook ได้ชี้ให้เห็นว่า ภาพรวมตลาดต่างชาติเที่ยวไทยในช่วงเดือน มกราคม-กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 มีจำนวนการจองกิจกรรมในไทยโตขึ้นมากกว่า 4,000% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปี 2565 โดยนักท่องเที่ยวหลักที่เข้ามาเยือนไทยได้แก่นักท่องเที่ยวจาก ฮ่องกง, ไต้หวัน, เกาหลีใต้, สิงคโปร์ และมาเลเซียตามลำดับ และกิจกรรมไทยที่เป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติได้แก่ ทัวร์แบบวันเดียว อาทิ ทัวร์ดำน้ำเกาะพีพี อ่าวมาหยา, ทัวร์เที่ยวชมประวัติศาสตร์อยุธยา ตามมาด้วยกิจกรรมการท่องเที่ยวที่สะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นไทย อาทิ ล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยา, เที่ยวตลาดน้ำ เป็นต้น 

สำหรับตลาดไทยเที่ยวนอกและไทยเที่ยวไทย ตัวเลขภายในของ Klook ก็สะท้อนไปในทิศทางที่เป็นบวกเช่นกัน โดยภาพรวมคนไทยเที่ยวนอกและคนไทยเที่ยวไทยนั้น มีการจองกิจกรรมที่เติบโตสูงขึ้นมากกว่า 800% โดยประเทศยอดฮิตที่คนไทยนิยมไปมากที่สุดในช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น, สิงคโปร์, ฮ่องกง & มาเก๊า, ยุโรปและเกาหลีใต้ ตามลำดับ 

มิเชล โฮ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า นับเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้เห็นการท่องเที่ยวกำลังฟื้นตัวกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว แม้จากผลสำรวจก่อนหน้านี้ของ Klook ชี้ให้เห็นว่า พฤติกรรมการท่องเที่ยวหรือทัศนคติเกี่ยวการท่องเที่ยวอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ในวันนี้เราทุกคนต่างเห็นแล้วว่า การได้ออกเดินทางท่องเที่ยวเป็นการสร้างประสบการณ์แห่งความสุขที่ทุกคนรอคอย ดังนั้นในปีนี้นักท่องเที่ยวจึงมีความพร้อมและมุ่งมั่นที่จะออกเดินทางอีกครั้งอย่างแน่นอน โดย Klook พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้การท่องเที่ยวนั้นสะดวก ง่ายดาย คุ้มค่า และทำให้คุณได้ค้นพบกับช่วงเวลาแห่งความสุขจากการเดินทางอย่างแท้จริง โดยนักท่องเที่ยวสามารถค้นหาและจองกิจกรรมท่องเที่ยวมากกว่า 530,000 กิจกรรมทั่วโลก เพียงคลิก www.klook.com 

[Advertorial]