เผยยอดเงินจากรัฐบาลเกาหลีใต้ เยียวยา “ครูแบมแบม” สาวไทยเหยื่อโศกนาฏกรรมอิแทวอน เป็นเงินประมาณ 1 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีการเกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ในงานปาร์ตี้ฉลองวันฮาโลวีนที่เขตอิแทวอน ซึ่งเป็นย่านสถานบันเทิงในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และมีรายงานว่า 1 ในผู้เสียชีวิตจากโศกนาฎกรรมดังกล่าว เป็นหญิงสาวชาวไทย ชื่อ น.ส.ณัฐธิชา มาแก้ว หรือ ครูแบมแบม อายุ 27 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 9 ตำบลหนองไขว่ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งไปเรียนต่อทางด้านภาษาและมาประสบเหตุดังกล่าว โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เนื่องจากต้องมีค่าใช้จ่ายในการนำศพกลับมา จำนวน 4 แสนบาท แต่ครอบครัว มีเงินอยู่เพียง หนึ่งแสนบาทเท่านั้น

วันนี้ น.ส.สุกัญญา องค์วิเศษไพบูลย์ แรงงานจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วย ประกันสังคมจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เข้าไปให้การช่วยเหลือ โดยกล่าวว่า ก่อนหน้าที่ผู้เสียชีวิตจะเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้ ได้เคยทำงานอยู่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และได้เข้าระบบประกันสังคม แต่ได้ลาออกเพื่อเดินทางไปศึกษาต่อ ในด้านภาษาที่ประเทศเกาหลีใต้ แต่เนื่องจากระบบประกันสังคมยังคุ้มครองอยู่ จึงยังมีเงินช่วยเหลือ ในส่วนนี้ ประมาณ 6 หมื่นกว่าบาท ซึ่งทางประกันสังคมจะได้เร่งรัด ตรวจสอบเพื่อเบิกจ่ายให้กับครอบครัวต่อไป

ด้านนายเพชรลดา บุญแสง อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนและญาติคนสนิทของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา สถานทูตไทยประจำประเทศเกาหลีใต้ได้แจ้งมาว่า รัฐบาลประเทศเกาหลีใต้มีเงินเยียวยา ให้กับผู้เสียชีวิต ประมาณ 600,000 บาท และเงินเกี่ยวกับการจัดการศพ ประมาณ 400,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1 ล้านกว่าบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสาร เพื่อนำประกอบในด้านการเบิกจ่ายต่อไป

ส่วนร่างของผู้เสียชีวิต ขณะนี้ยังอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ และอยู่ระหว่างการดำเนินการในด้านเอกสาร คาดว่า อีกประมาณ 3-4 วัน ถึงจะสามารถนำศพกลับมาที่ประเทศไทยได้

ด้าน นายสาคร อายุ 67 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ครั้งแรกที่ประเทศเกาหลีใต้ แจ้งมาว่า จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการนำศพลูกสาวกลับมาที่ประเทศไทย ประมาณ 400,000 บาท ตนรู้สึกเครียดเป็นอย่างมาก และเตรียมที่จะไปหยิบยืมเงินจากญาติๆ เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพด้วย และนอกจากนั้นยังมีเงินที่กู้จาก ธกส. เพื่อให้ลูกได้ไปเรียนภาษาอีกประมาณ 100,000 บาท รวมทั้งที่ กยศ. ที่ยังคงค้างอยู่อีกแสนกว่าบาท ตนยังคิดไม่ออกเลยว่าจะทำอย่างไร เพราะมีลูกสาวเพียงคนเดียว หวังจะฝากผีฝากไข้ และให้ดูแลยามเจ็บป่วย ยามแก่ชรา แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เสียก่อน 

อย่างไรก็ตาม หลังจากทราบข่าวว่า ประเทศเกาหลีใต้ มีเงินเยียวยาและเงินช่วยเหลือ ในด้านการจัดการศพจึงคลายกังวลลงบ้าง และหลังจากเมื่อวานที่มีการนำเสนอข่าวว่า ตนต้องไปหยิบยืมเงินจากเพื่อนบ้าน เพื่อมาใช้จ่ายในงานศพ ทำให้มีผู้ใจบุญติดต่อเข้ามา เพื่อที่จะช่วยเหลือและร่วมทำบุญ เพื่อใช้ในการจัดงานศพ รวมทั้งไว้เป็นค่าใช้จ่ายเมื่อยามแก่ชรา