แค้นนี้ต้องชำระ! โชว์เฟอร์แท็กซี่เก็บความแค้นนานหลายปี ขึ้นแท็กซี่โชว์หมายจับอัดคลิปเพื่อนร่วมอาชีพ ชวนไปโรงพักรับทราบข้อกล่าวหาซ่องโจร แค้นเคยถูกวินเถื่อน BTS แพรกษา ห้ามจอด-เรียกเก็บเงินค่าจอดรถ

วันที่ 21 พฤษภาคม 2566 จากกรณีที่เพจ อยากดังเดียวจัดให้รีเทริน์ part6 ได้โพสต์คลิปวีดีโอพร้อมกับระบุข้อความเอาไว้ว่า ที่นี่ สมุทรปราการ!!!!! หมายจับก็มี เก่งกันนัก กร่างกันนัก กดขี่กันดีนัก ข่มเหงรังแกกันดีนัก หมดอาชีพ หมดทางทำมาหากินจุดจบขาใหญ่แพรกษา คนหนี จนท. ยึดรถ คำแปลคลิปคนถ่ายแจ้งความคนขับ(คดีอะไรสักอย่าง/คดีทำร้ายร่างกาย) ศาลออกหมายจับแล้ว แต่ผ่านไปนานก็จับไม่ได้สักที คนขับก็ตีมึนทำตัวปกติต่อไปในสังคม จนคนถ่าย(เจ้าทุกข์)ต้องถือหมายจับ มาจับเอง น่าจะราวๆนี้มั้ง คนถ่ายน่าไม่ใช่ตำรวจแต่เป็นเจ้าทุกข์

โดยในคลิปจะเห็นว่าเจ้าของคลิปเดินมาหาโชว์เฟอร์แท็กซี่ แล้วบอกกับโชว์เฟอร์ว่ามีหมายจับ ก่อนที่เจ้าของคลิปจะเดินขึ้นไปนั่งบนรถแล้วบอกให้โชว์เฟอร์ขับไปโรงพัก แต่โชว์เฟอร์ก็พยายามบอกให้เจ้าของคลิปลงจากรถเพราะว่าจะกลับบ้าน แต่เจ้าของคลิปก็ไม่ยอมลง และยังระบายอย่างอัดอั้นตันใจถึงกระบวนการยุติธรรมว่า ผ่านมาหลายปีไม่มีหน่วยงานไหนสามารถจับผู้ต้องหาให้ตนได้ทั้งที่มีหมายจับ ก่อนที่โชว์เฟอร์แท็กซี่จะขับรถไปจอดที่ปั้มน้ำมันย่านบางปู เจ้าของคลิปจึงโทรแจ้งตำรวจให้ตามมายึดรถไปที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ

ต่อมาผู้สื่อข่าวตรวจสอบข้อเท็จเรื่องดังกล่าว ทราบว่า ผู้อัดคลิปกับโชว์เฟอร์แท็กซี่ในคลิปนั้นเป็นคู่กรณีกันตั้งแต่ปี 2563 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2563 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กได้โพสต์ คลิปวิดีโอการสนทนาโดยใช้หัวข้อว่า วินเถื่อน BTS แพรกษา มีคลิปครับ พูดคุยสนทนาฟังดูกันเอาเองแล้วกันครับ แพรกษา BTS ฟังน้ำเสียงดูสิครับ การเรียกเก็บค่าจอดว่า จากบุคคลกลุ่มหนึ่ง

โดยคนขับแท็กซี่ เล่าว่า ระหว่างวิ่งรถและมาหยุดรอรับ-ส่งผู้โดยสาร ที่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านถนนสุขุมวิท ซึ่งมีรถแท็กซี่จอดอยู่ 4–5 คันโดยมีชายคนหนึ่งยืนอยู่ท้ายรถแท็กซี่คันสุดท้าย ระหว่างนั้นก็พยายามที่จะจอดต่อท้าย แต่ชายคนดังกล่าวมาบอกว่าต่อแถวไม่ได้ เพราะไม่ได้จ่ายเงินค่าวิน จึงสอบถามว่าเก็บค่าวินเท่าไหร่ ใครเป็นผู้ดูแล แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ อ้างไม่สามารถบอกข้อมูลคนนอกวินได้ ซึ่งจากการสังเกตก็พบว่า มีรถแท็กซี่จอดอยู่หลายคันที่ริมถนน หน้าห้างสรรพสินค้า ใต้สถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีแพรกษา จากนั้นจึงไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการ เพราะคิดว่าอาจจะเป็นพวกเก็บส่วยจากวินรถแท็กซี่ ซึ่งหลังเกิดเรื่องเจ้าหน้าที่ก็ติดตามตัวชายทั้ง 2 คนในคลิปมาแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด

ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (21 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองสมุทร สามารถจับกุม นายสุมนัส มั่นเจริญ อายุ 47 ปี ได้ที่บ้านพัก พบเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหาเป็นอั่งยี่ หรือซ่องโจร , ร่วมกันพยายามขืนใจผู้อื่น, ใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้อันตรายแก่กายและจิตใจ พร้อมยึดรถแท็กซี่สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทว 9375 กรุงเทพมหานคร ไว้ตรวจสอบ

จากการสอบถาม นายสุมนัส ผู้ต้องหาตามหมายจับ เล่าว่า ระหว่างที่ตนจอดรถแท็กซี่รอลูกค้าอยู่ที่หน้าบิ๊กซี สมุทรปราการ จู่ๆก็มีชายสวมหมวกกันน็อคเดินหาตน บอกให้ไปโรงพัก แล้วก็กระโดดขึ้นรถตนเลย ตนจำไม่ได้ก็เลยถามว่าเป็นใคร แล้วก็บอกให้ลงจากรถ แต่ทางเขาก็ไม่ยอมลงจากรถ ตนจึงขับรถไปจอดทิ้งไว้ที่ปั้มเอสโซ่บางปูแล้วก็กลับบ้าน ปล่อยให้เขานั่งอยู่บนรถ ยอมรับว่าจำเขาไม่ได้และกลัวด้วยเพราะเขาใส่หมวกกันน็อคตลอด ส่วนเรื่องที่ถูกออกหมายจับนั้นตนไม่ทราบมาก่อน เพราะตนป่วยเป็นโควิดนอนติดเตียงพักฟื้นอยู่ที่ต่างจังหวัดมานานหลายปี เพิ่งจะกลับมาขับรถแท็กซี่ได้ไม่นาน ส่วนเรื่องรถแท็กซี่ก็ยอมรับว่า รถหมดอายุจริงต่อทะเบียนขับรถแท็กซี่ไม่ได้ แต่ตนก็ต้องขับเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวนิดๆหน่อยๆ ไม่มีตังค์ซื้อรถใหม่

ด้าน นายทรงชัย แซ่ตั้น อายุ 38 ปี เจ้าของคลิป เปิดเผยว่า วันนี้ตนไปพบกับผู้ต้องหาตามหมายจับที่เคยเป็นคู่กรณีกับตนเมื่อหลายปีก่อน ที่ใต้ BTS แพรกษา ถนนสุขุมวิท ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง สมุทรปราการ ตนจึงขึ้นไปนั่งบนรถแล้วให้พาไปที่โรงพักเมืองสมุทรปราการ แต่คนขับแท็กซี่พาตนไปที่ปั้มน้ำมัน ย่านบางปูก่อนจอดรถแล้วหนีไป ตนจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มายึดรถ ตอนนี้ก็รู้สึกสะใจที่ผู้ต้องหาถูกจับแล้วก็ขอให้ติดคุกนานๆ และขอให้เพื่อนร่วมอาชีพดูไว้อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะตอนติดคุกไม่มีใครช่วยได้