ลอสแอนเจลิส, 9 มี.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันพุธ (8 มี.ค.) สำนักงานตำรวจเมืองซอลต์เลคซิตี รัฐยูทาห์ของสหรัฐฯ ยืนยันการจับกุมชายวัย 65 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุปล้นธนาคารท้องถิ่นเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ซึ่งรายงานระบุว่าเขาต้องการเงินเพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 35 บาท) จากพนักงานธนาคาร และหวังจะถูกนำตัวเข้าเรือนจำ

สำนักงานตำรวจฯ ระบุว่าชายรายนี้ที่ชื่อ “โดนัลด์ ซานตาโครเซ” เดินทางไปยังธนาคารแห่งหนึ่ง ใกล้กับถนนเซาท์เมนสตรีต 300 ของเมืองซอลต์เลคซิตี ซึ่งเป็นเมืองหลวงและเมืองที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดของรัฐยูทาห์ทางตะวันตกของสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (6 มี.ค.) ที่ผ่านมา

ซานตาโครเซเผยความต้องการเงินจากพนักงานธนาคารและปฏิเสธจะออกจากธนาคาร โดยชายชรารายนี้เคยถูกส่งตัวเข้าเรือนจำซอลต์เลคซิตีเมโทรจากคดีปล้นทรัพย์ ด้านสำนักงานตำรวจฯ ไม่ได้ระบุในคำแถลงว่าซานตาโครเซต้องการเงินจากพนักงานธนาคารจำนวนเท่าไร

อย่างไรก็ดี สื่อท้องถิ่นอ้างอิงหนังสือรับรองการส่งตัวเข้าเรือนจำของตำรวจ รายงานว่าซานตาโครเซส่งกระดาษโน้ตให้พนักงานธนาคาร ซึ่งเขียนว่า “โปรดยกโทษให้ผมที่ทำแบบนี้แต่นี่คือการปล้น ช่วยส่งเงินให้ผม 1 ดอลลาร์ ขอบคุณครับ”

รายงานข่าวระบุว่าพนักงานธนาคารส่งเงินให้ซานตาโครเซตามคำร้องขอดังกล่าวและขอให้ชายชราออกจากธนาคารไป ทว่าซานตาโครเซกลับบอกให้พนักงานธนาคารโทรศัพท์แจ้งตำรวจ

“โดนัลด์เผยว่าเขาทำแบบนี้เพราะต้องการถูกจับกุมและส่งตัวเข้าเรือนจำของรัฐบาล พร้อมเสริมว่าถ้าได้ออกจากเรือนจำแล้ว เขาจะปล้นธนาคารอีกรอบและขอเงินเพิ่มขึ้น เพื่อพยายามบรรลุความปรารถนาในการถูกส่งตัวเข้าเรือนจำของรัฐบาล” สื่อท้องถิ่นอ้างอิงรายงานการจับกุมของตำรวจ

อนึ่ง สำนักงานตำรวจฯ ไม่ได้ระบุแรงจูงใจที่เป็นไปได้ในการก่อเหตุปล้นธนาคารนี้ของซานตาโครเซ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สหรัฐฯ พบเหตุปล้นธนาคารเพื่อเงินหนึ่งดอลลาร์สหรัฐ โดยก่อนหน้านี้เมื่อปี 2011 เจมส์ วีรอน ชายวัย 59 ปี ที่ตกงานและไม่มีประกันชีวิต ก่อเหตุปล้นธนาคารแบบนี้ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา เพื่อต้องการการดูแลสุขภาพในเรือนจำ

ต่อมาปี 2013 ชายไร้บ้านวัย 50 ปี ก่อเหตุปล้นธนาคารเพื่อเงินหนึ่งดอลลาร์ในรัฐโอเรกอน และเฝ้ารอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมตัว เพื่อเขาจะได้รับการดูแลทางการแพทย์