ใช้ชีวิตโลดแล่นอยู่ในวงการตลกมานานหลายปีสำหรับ อาไท กลมกิ๊ก เรียกว่าชีวิตในวัยเด็กของเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ต้องทำงานหนักเพื่อเป็นเสาหลักหาเงินเลี้ยงครอบครัว ล่าสุดเจ้าตัวได้มาเปิดใจในรายการโต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกรคนดัง หนูแหม่ม สุริวิภา ขอย้อนเล่าปมชีวิตลำบาก พร้อมเผยสาเหตุเคยทะเลาะกับพ่อหนัก ถึงขั้นหนีออกจากบ้าน

ตั้งใจเป็นหัวหน้าครอบครัว ?
“ใช่ครับ ตอนนั้นเคยบอกกับพ่อว่าจะเป็นหัวหน้าครอบครัว ซึ่งตอนนั้นเราก็งอนกันพักหนึ่ง ตอนนั้นเพิ่งอายุ 16-17 ที่ตัดสินใจไปขอเพราะเรารู้สึกว่าเราทำงานมาหนัก และเราควรมีเงินเก็บมากกว่านี้ ซึ่งเราก็รู้ด้วยว่าพ่อผมเก็บเงินไม่เก่ง เพราะตอนนั้นพ่อกับแม่เขาแยกทางกัน”

“ซึ่งตอนที่มีแม่อยู่ เขาก็จะเป็นคนเก็บเงิน แต่ตอนที่พ่อเรามาดูแลแทน ซึ่งเรารู้เลยว่าพ่อเราเป็นคนค่อนข้างสปอยล์ ใช้เงินสะบัดเลย แล้วเรารู้สึกว่าเราอยากดูแลตรงนี้เอง ก็เลยไปบอกเขาตรงๆ ว่าต่อไปนี้เวลาไปรายการอะไรขอเอาเงินเข้าบัญชีผม แต่ตามภาษาพ่อเขาก็จะบอกว่าผมอวดเก่ง”

“ซึ่งไม่คุยกันนานมาก ไม่ได้เชิงทะเลาะ แต่ว่าไม่คุยกัน เกือบปีถึงขั้นต้องออกไปอยู่นอกบ้าน ซึ่งเราก็บอกเขาว่าผมขอดูแลเองดีกว่า แต่เราก็ไม่กล้าบอกเขาตรงๆ ว่าเขาเป็นคนเก็บเงินไม่เก่ง”

ทุกวันนี้หายงอนหรือยัง ?
“หายแล้วครับ ก็เคลียร์กันโดยการโทรหาทุกวัน ซึ่งคนอื่นเขาจะให้เงินพ่อเป็นรายเดือน แต่ผมจะให้เงินพ่อเป็นรายวัน รายเดือนอาทิตย์แรกก็หมดแล้ว เพราะพ่อผมเป็นคนมีเงินไม่ได้ มีเงินปุ๊บก็จะหน้าใหญ่ทันที ไปไหนไป ซื้ออะไรซื้อ อยากกินอะไรกิน”

ทุกวันนี้พอเข้าใจเจตนาแล้วหรือยัง ?
“เข้าใจแล้วครับ เพราะตราบใดเขาโทรมาแล้วเราโอนเงินให้เขาอยู่ทุกวัน เขาก็ต้องเชื่อแล้วล่ะเราดูแลได้ เราไม่เคยทำให้เดือดร้อน ค่าบ้านค่ารถเราดูแลทุกอย่างได้ เขาก็โอเค”

อาไท เปิดใจเล่าถึงชีวิตที่เคยลำบากในอดีต

แล้วตอนที่พ่อดูแลเราเป็นยังไง ?
“ช่วงนั้นมันก็มีขาดตอนบ้างครับ พ่อผมเขาไม่ได้คิดวางแผนไว้ เขาก็มีเงินก็ใช้ ไม่มีเงินเขาก็ไม่ใช้ ซึ่งหลายอย่างตอนนั้นถ้าเราไม่มี แต่เราต้องจ่ายอีกหลายๆ อย่างที่มันเป็นความจำเป็นของการมีชีวิตอยู่ปัจจัยสี่ต่างๆ เราก็เลยขอที่จะมาดูแลเองทั้งหมด”

ตอนนี้เราดูแลอะไรบ้าง ?
“ดูแลทั้งหมดครับ”

เคยพูดว่าเราจะต้องรวยตอนอายุ 30 ?
“ความคิดนี้อยากจะที่เกษียณตัวเอง ซึ่งตอนแรกตั้งใจจะเกษียณตัวเองตอนอายุ 50 แต่ถามว่าเถียงตัวเองไหมก็เถียงตัวเองว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพียงแค่ว่าเรายังเป็นคนชอบเล่นตลกอยู่ ซึ่งเราก็ดูรุ่นพี่บางคนอายุ 60 ยังเล่นตลกอยู่เลย ผมก็เลยบอกว่าเราก็คงจะเป็นแบบนั้น และเลือกในสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำ ซึ่งเราตั้งใจว่าถ้าอายุ 30 ผมต้องให้ทุกอย่างกับครอบครัวให้เต็มที่ที่สุด และหลังจากนั้นเราค่อยให้ตัวเองบ้าง”

ครอบครัวต้องมาก่อน ?
“มาจากที่เราเคยปากกัดตีนถีบมาด้วยกัน ซึ่งตัวผมอดได้ แต่ครอบครัวผมต้องอยู่ได้ ตัวผมอดผมไม่เป็นไร ซึ่งตอนที่เราเคยอดมันค่อนข้างบีบหัวใจที่เราดูแลครอบครัวเราไม่สบายพอ ซึ่งตอนนั้นเงินจะกินข้าวยังไม่มีในวันนั้น เราก็เลยไม่ได้แล้ว รู้สึกว่าเราต้องทำอะไรก็ได้ที่ครอบครัวเราอยู่สบาย ห้ามลำบาก ตัวเราเองจะยังไงก็ช่างมัน ซึ่งคือเป้าหมายและความตั้งใจของเรา”

วางแผนการเงินยังไง ?
“สำหรับตัวผมผมให้กับตัวเองค่อนข้างน้อย ผมเป็นคนไม่ค่อยให้อะไรกับตัวเอง สิ่งที่ผมให้ผมให้เป็นองค์รวมเลยซื้อบ้านก็เพราะว่าครอบครัวที่จะต้องได้อยู่ด้วยกัน หรืออะไรก็ตามผมต้องการที่จะให้ครอบครัว ซึ่งเราเป็นคนไม่ได้กินหรู ผมก็กินอาหารตามสั่งข้างล่างคอนโดทั่วไป วันนึงผมใช้เงินไม่เกิน 300 บาท”