อดีตภารโรงผูกคอดับ ทิ้งจดหมาย “ทั้งรักทั้งแค้น” บอกถูกโกงเงิน เมียให้การวกวน อ้างตื่นมาเลือดเต็มตัว หัวแตก แต่ไม่รู้โดนอะไร

เมื่อเวลา 11.00 น. (1 ก.ย.65) ร.ต.ท.จุติพัชร ทิพย์พาหน รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุมีผู้ผูกคอเสียชีวิต ภายในบ้าน ซอยบางกร่าง 45 ถนนบางกรวยไทรน้อย ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ที่บันไดทางขึ้นชั้น 2 พบศพ นายวิเชียร อายุ 65 ปี ใช้เชือกไนลอนสีขาว ผูกคอกับราวบันไดเสียชีวิต

และพบ น.ส.สุรีวรรณ อายุ 47 ปี ภรรยาอยู่ในสภาพชุดนอน มีเลือดเปื้อนศีรษะและตามเสื้อผ้าจำนวนมาก จากการตรวจร่างกายพบบาดแผลที่ศีรษะด้านขวา 2 แผล ลักษณะคล้ายถูกของแข็งมีคม เจ้าหน้าที่กู้ชีพทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ภายในบ้านพบอุปกรณ์เสพกัญชา และอาวุธมีด แต่ไม่พบคราบเลือด และไม่มีร่องรอยการต่อสู้

จากการสอบถาม น.ส.สุรีวรรณ อายุ 47 ปี ภรรยาผู้ตาย ให้การกับตำรวจว่า เมื่อช่วงค่ำเมื่อวานนี้ ตนทำกับข้าวทานกับสามีและเข้านอนประมาณ 1 ทุ่มกว่า เพราะตนต้องตื่นตี 3 ไปทำขนมตาลขายที่วัดโบสถ์ดอนพรหม สามีก็ไม่ได้ว่าอะไรก็เข้านอนปกติ ตนไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะเมื่อคืนตนหลับอยู่ จากนั้นเวลาตี 2 สามีได้ตื่นมาถามตนว่าจะไปทำงานหรือไม่ ตนบอกว่าไปไม่ไหวตนปวดขาและปวดหัว สามีบอกว่าถ้าไม่ไปทำงานให้อุ่นกับข้าวให้ด้วย และให้ซื้อยาพ่นคอแก้หอบหืดมาให้

หลังจากนั้นได้นอนต่อ มาตื่นอีกทีตอน 08.35 น. ได้ยินเสียงลูกสาวร้องตะโกนว่าพ่อเลี้ยงผูกคอเสียชีวิต สามีเป็นคนดีมากไม่เคยทำร้ายตน ตื่นเช้ามาจะล้างจานและเตรียมน้ำให้ตนอาบ คอยดูแลตลอด ตนไม่ทราบว่าแผลที่ศีรษะไปโดนอะไร ตื่นมารู้สึกปวดหัว และพบว่ามีเลือดเต็มตัว

ด้าน น.ส.ออมขวัญ อายุ 24 ปี ลูกเลี้ยงผู้ตาย กล่าวว่า เมื่อเช้าหลังจากตนเปิดประตูก็พบว่าสามีแม่ผูกคอตายจึงร้องกรี๊ด จากนั้นแม่ก็เปิดประตูห้องออกมาถามว่าร้องทำไม ตนจึงบอกว่าพ่อผูกคอตายแล้ว ลุงตนบ้านอยู่ใกล้กันได้ยินก็เดินเข้ามาดู หลังจากนั้นญาติๆ ก็โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตอนที่แม่เปิดประตูออกมาก็มีเลือดเต็มศีรษะแล้ว ตนยังคิดว่าแม่ย้อมผม แต่ป้าบอกว่าไม่ใช่มันเป็นเลือด

ต่อมา นายขวัญชัย อายุ 40 ปี ลูกชายของผู้ตายเดินทางมาที่เกิดเหตุ กล่าวว่า หลังจากพ่อปลดเกษียณจากภารโรง โรงเรียนวัดแคใน มีเงินบำนาญและไม่มีหนี้สิน พ่อมาอยู่กับภรรยาใหม่ก็เริ่มมีหนี้สินจากการกู้ยืม เท่าที่ทราบพ่อมีหนี้เกือบแสนและต้องจ่ายดอกรายวัน เงินเดือนไม่เหลือพอใช้ พ่อเคยบ่นให้ฟังบ่อย จากที่ตนทราบพ่อกับภรรยาใหม่ ได้อยู่กินกันมาประมาณ 4 ปี มีปัญหากันบ้าง แต่พ่อเป็นคนไม่ค่อยพูด และตนก็ไม่ค่อยเข้ามาที่นี่ ตนสงสัยว่าภรรยาใหม่พ่อมีบาดแผลและมีเลือดเต็มตัวขนาดนั้น ทำไมไม่รู้ว่าไปโดนอะไรมา ส่วนสาเหตุที่พ่อผูกคอเสียชีวิตตนติดใจ แต่พ่อก็เคยบ่นว่าอยากผูกคอตาย

จากการตรวจสอบในกระเป๋าสตางค์ผู้ตาย พบจดหมายเขียนระบายความในใจ ว่า มึงสองแม่ลูกโกงเงินกูไป 93,000 บาท ไอ้อ้นเอาไป 65,000 บาท ไอ้แอมเอาไป 28,000 บาท ไม่ได้คืนเลยสักคนเดียว ยังไม่พอหลอกให้กูไปกู้นอกระบบ มาอีกแสนกว่าบาท เพื่อจะไปเสียค่าน้ำ ค่าไฟ ที่บ้านนี้น้ำไฟจะถูกตัดบ่อยมาก แต่ละงวดเกือบ 2 หมื่นบาท ทั้งต้นทั้งดอกก็ไม่ยอมช่วยส่ง มึงหลอกกูทุกเรื่อง หมดเวรหมดกรรม กันเสียที สำหรับมึงกับกู กูทนกับมึงมานานแล้ว ทั้งรักทั้งแค้น

เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า นายวิเชียร ผู้ตาย เครียดเรื่องหนี้สินเงินกู้นอกระบบ ตัดสินใจผู้คอตาย ส่วนบาดแผลที่ศีรษะ น.ส.สุรีวรรณ อยู่ระหว่างสอบสวน เนื่องจากยังให้การวกวน