หนุ่มวัย 22 ปี ฉลองการหย่าร้างด้วยกีฬาผาดโผน ช็อกเชือกขาดระหว่างทาง ร่วงจากความสูงมากกว่า 20 เมตรดิ่งลงน้ำ แม้รอดตายปาฏิหาริย์ แต่ก็บาดเจ็บสาหัส
ตามรายงานพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา “ราฟาเอล” ชายชาวบราซิลวัย 22 ปี ตัดสินใจท้าทายกีฬาผาดโผนที่ทะเลสาบลาโก อาซูล เพื่อเฉลิมฉลองให้กับชีวิตโสดของเขา หลังจากที่เพิ่งหย่ามาหมาดๆ ในขณะที่เขากำลังจะกระโดดยังพูดติดตลกว่า “เชือกอาจรองรับน้ำหนักของเขาไม่ไหว” และก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นจริงๆ หลังจากกระโดดลงไปเชือกนิรภัยบนร่างกายของเขาก็ขาด
ภาพเหตุการณ์ที่น่ากลัวถูกบันทึกไว้ในคลิปวิดีโอทั้งหมด ขณะที่ร่างของราฟาเอลร่วงลงไปจากความสูง 20 เมตร และตกลงในน้ำด้านล่าง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ตื่นขึ้นพร้อมกับเสียงร้องไห้ ในขณะที่ทีมกู้ภัยรีบนำส่งโรงพยาบาล เขารับรู้ได้ทันทีกระดูกคอและกระดูกสันหลังส่วนเอวหักอย่างแน่นอน ใบหน้าและหลังของเขาก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน โดยรวมแล้วเขาตกอยู่ในอาการโคม่า
“หลังการหย่าร้าง ผมอยากมีความสุขกับชีวิตในทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ ฉันทำเรื่องบ้าๆ บอๆ มากมาย ผมไม่ได้ให้คุณค่ากับชีวิตเลย”
อันที่จริง ราฟาเอลเพิ่งหย่าในวันที่เกิดอุบัติเหตุ เขาต้องการสนุกกับชีวิตและทำสิ่งบ้าๆ บอๆ เพื่อเฉลิมฉลองให้กับการกลับมาโสดอีกครั้ง ตอนนี้ผ่านมาเกือบ 3 เดือนหลังจากได้รับบาดเจ็บ แต่ร่างกายของเขายังคงฟื้นฟูได้ไม่เต็มที่ ยังต้องทนทุกข์ทรมานจากผลกระทบที่ตามมา แม้ว่าจะทำกายภาพบำบัดและการรักษาหลายครั้ง เขายังคงมีปัญหาในการยกของหนัก รู้สึกเจ็บปวดร่างกายบางส่วน และมีอาการอ่อนแรง การบาดเจ็บทางจิตใจก็ยังไม่หายไป แม้กระทั่งนอนยังนอนไม่หลับ นับประสาอะไรกับการกลับไปทำงาน
“การนอนของผมไม่เหมือนเดิม ผมนอนไม่หลับ ต้องขอความช่วยเหลือ เริ่มมีอาการวิกฤต ฝันร้าย และก็กลายเป็นกลัวที่จะนอน”
อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนในชีวิตอย่างกะทันหันนี้ทำให้ราฟาเอลเริ่มรู้สึกขอบคุณชีวิต นอกจากนี้ แม้ว่าความรักในกีฬาผาดโผนของเขาไม่ได้หายไป แต่หลังจากรอดตายอย่างปาฏิหาริย์จากเหตุสยองขวัญ เขาจะคำนึงถึงความรู้สึกของครอบครัวในอนาคต ดังนั้นเขาจะไม่ลองทำกิจกรรมผาดโผนแบบนี้อีก
“ผมเริ่มเห็นคุณค่าของชีวิตและรู้สึกขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้ผมไม่ใส่ใจ แต่ผมไม่ได้มองมันด้วยมุมมองนี้… ชีวิตของผมจะไม่เหมือนเดิม ผมไม่ต้องการเป็นราฟาเอลอย่างที่เคยเป็นมาก่อน ผมต้องขอบคุณสำหรับการมีชีวิตอยู่ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากอยู่แล้ว”