จากกรณีเมื่อวันที่ (28 ต.ค.) เพจสายไหมต้องรอด พาเซียนพนันเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.โคกครามถูกถุงคลุมหัวและทำร้ายร่างกายเพื่อรีดทรัพย์ เป็นจำนวนเงิน 5 ล้านบาท ภายในบ่อนพนันย่านรามอินทรา เหตุเกิดเมื่อวันที่ (19 ส.ค.) กระทั่งล่าสุด ผบก.น.2 มีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.ศรีสังต์ เฟื่องสังข์ ผกก.สน.โคกคราม พ้นจากตำแหน่งไปเมื่อวันที่ (30 ต.ค.) ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่30 ต.ค.ที่ สน.โคกคราม นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เดินทางพร้อมนำหลักฐานเป็นรูปภาพและข้อความการพูดคุยผ่านแอปพลิเคชัน มามอบให้พ.ต.ท.เดชาวัสส์ ขันกสิกรรม รอง ผกก.(สอบสวน) สน.โคกคราม เพื่อให้ตรวจสอบผู้เสียหายทั้ง 5 คน ที่เคยมาแจ้งความว่าถูกเจ้าของบ่อนอุ้มรีดเงิน 5 ล้านบาทหลังพบว่าเป็นแก๊งโกงบ่อนพนันชื่อ” 9 กระเทย”

นายสันธนะ เปิดเผยว่า จากข้อมูลที่ตนมีพบว่าผู้เสียหายทั้ง 5 คน เป็นแก๊งที่ตระเวนไปเล่นการพนันตามบ่อนต่าง ๆ ในพื้นที่ กทม.และโกงเงินบ่อนการพนันด้วยวิธีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งในวันเกิดเหตุกลุ่มผู้เสียหายมาด้วยกัน 9 คน ถูกบ่อนจับได้ 7 คน อีก 2 คนหลบหนีไปไดั ซึ่งทั้งหมดได้เงินจากการโกงพนันเสือมังกรรวม 5 วัน เป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท

โดยพยานหลักฐานสำคัญคือข้อความในโทรศัพท์มือถือของหัวหน้าแก๊ง ซึ่งเป็นสาวประเภทสองและอ้างตัวว่าทางบ่อนรีดเงินไปกว่า 2 ล้านบาท จึงจะนำหลักฐานเหล่านี้ไปมอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อใช้ในการตรวจสอบแก๊งนี้ว่ามีพฤติกรรมดังกล่าวจริงหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าจากข้อมูลที่ตนได้ว่า ในวันเกิดเหตุไม่มีการใช้ถุงดำและทำร้ายร่างกายตามที่ผู้เสียหายได้มาแจ้งความไว้

” ส่วนที่ตนออกมาเปิดเผยข้อมูล ต้องการเตือนและให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชน ไม่ให้หลงประเด็นและไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของแก๊งเหล่านี้ ซึ่งมีสื่อบางสำนักเกี่ยวข้องในการเรียกรับผลประโยชน์จากเงินส่วนแบ่ง 1.8 ล้านบาทที่บ่อนยังค้างจ่ายให้แก๊งนี้ ” นายสันธนะ กล่าว.

นายสันธนะ เผยด้วยว่า เพจสายไหมต้องรอดนั้นการที่เพจเหล่านี้ออกมาช่วยเหลือหรือเปิดเผยข้อมูลก็เป็นเรื่องดี เพราะทำให้บ่อนการพนันในกรุงเทพฯ หมดไปแต่อยากให้ทำเพื่อสังคมจริง ๆ และเตือนนักพนันว่าหลังจากนี้จะไม่มีบ่อนในกรุงเทพฯ แล้วอย่าหลงเชื่อใครหากมีมีคนมาชักชวนไปเล่นการพนันตามห้องพักหรือคอนโดมิเนียมต่าง ๆ อย่างเด็ดขาดเพราะอาจถูกโกงจนหมดตัว