สภาประชาชนแห่งชาติจีน มีมติเป็นเอกฉันท์เมื่อวันศุกร์ (10 มี.ค.) รับรองให้นายสี จิ้นผิงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 3 กลายเป็นผู้นำที่ครองตำแหน่งยาวนานที่สุดของจีนสมัยใหม่ ด้วยคะแนน 2,952 ต่อ 0

นายสี วัย 69 ปี กล่าวระหว่างการสาบานตนรับตำแหน่งหลังจากลงมติดังกล่าวว่าจะ “สร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ที่เจริญรุ่งเรือง แข็งแกร่ง เป็นประชาธิปไตย ศิวิไลซ์ ปรองดอง และยิ่งใหญ่”

เหตุนี้เท่ากับว่านายสีจะได้เป็นประธานาธิบดีจีนไปอีก 5 ปี

เมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา นายสีก็ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง 2 ตำแหน่งใหญ่ของจีนด้วย ก็คือ ตำแหน่งเลขาธิการใหญ่แห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน และประธานคณะกรรมการกองทัพกลาง

ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา จีนจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของผู้นำประเทศไว้ไม่เกกิน 2 สมัยหรือ 10 ปี เพื่อไม่ให้ผู้นำอยู่ในตำแหน่งนานเกินไปจนกลายเป็นลัทธิบูชาตัวบุคคลเหมือนที่เกิดขึ้นกับนายเหมา เจ๋อตง กระทั่งมีการเปลี่ยนแปลงการจำกัดดังกล่าวเมื่อปี 2561 ในสมัยของนายสี

ถึงอย่างนั้น การเริ่มต้นการดำรงตำแหน่งสมัยที่ 3 ของผู้นำจีนคนนี้ ก็เกิดขึ้นท่ามกลางสภาวะทางเศรษฐกิจของจีนที่เผชิญกับความท้าทายหลายอย่าง เช่น การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ไม่ร้อนแรงเหมือนเดิม ปัญหาหนี้สินในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และธนาคาร และอัตราเด็กเกิดใหม่ที่ต่ำ

นอกการรับรองนายสีเป็นผู้นำประเทศอีกสมัยแล้ว วันเดียวกันนี้สภาประชาชนจีนยังลงมติรับรองแผนปฏิรูปสถาบันต่างๆ ของรัฐ โดยเฉพาะหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หลังจากสหรัฐพยายามขัดขวางพัฒนาการด้านดังกล่าวของจีน

ส่วนอีก 2 วันข้างหน้า คาดว่าสภาประชาชนจีนจะเลือกนายหลี่ เฉียง เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่