ล้ำค่า พบตะเกียงสังเค็ดพระราชทานหลังงานพระบรมศพรัชกาลที่ 5 ระบุปี ร.ศ.๑๒๙ ในมัสยิดเก่าแก่เมืองคอน 

ที่นครศรีธรรมราช เมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2566 มีรายงานว่านักวิชาการท้องถิ่นได้ค้นพบตะเกียงโบราณขนาดใหญ่ ที่ถูกใช้ในการพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปิยะมหาราช ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ถูกเก็บไว้ใน มัสยิดดารุลมุตตากีน หรือ มัสยิดท่าเรือ ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าเรือ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นมัสยิดเก่าแก่หลายชั่วอายุคนแต่ถูกบูรณะสร้างขึ้นใหม่ตามยุคสมัย

ส่วนตะเกียงดวงนี้ได้ถูกเก็บไว้ในมัสยิดแห่งนี้กว่า 100 ปี โดยที่คนรุ่นหลังไม่ได้ทราบถึงความสำคัญ จนกระทั่ง นายสามารถ สาเร็ม นักวิชาการประวัติศาสตร์มุสลิมภาคใต้ เป็นผู้ค้นพบตะเกียงนี้เป็นคนแรกและนำข้อมูลไปศึกษา

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อกับนายอาซาน บุญเกษม อายุ 65 ปี บิหลั่นประจำมัสยิด ได้นำไปชมตะเกียงดวงนี้ซึ่งถูกเก็บไว้ในตู้ไม้มิดชิด พบว่าเป็นตะเกียงโลหะขนาดใหญ่ทำจากทองเหลืองกรอบดุนลายใบไม้อย่างงดงาม มีกระจกกันลมสีเขียว หลอมโบราณ ภายในมีจานไส้ตะเกียง ด้านข้างมีแผ่นทองเหลืองยึดหมุดติดกับตัวตะเกียงข้อความว่า “พระราชทานในงานพระบรมศพ ร.ศ.๑๒๙” และยังพบตุ้มเหล็ก 2 ลูก มีลวดลายงดงามแต่ถูกสนิมกัดกร่อน ส่วนโซ่สำหรับแขวนตะเกียงยังอยู่ในระหว่างการสืบค้นหา

สำหรับตะเกียงดวงนี้ทั้งอิหม่าม คอเต็บ บิหลั่นประจำมัสยิด รวมทั้งผู้เฒ่าของมัสยิดต่างยืนยันว่าเมื่อจำความได้และเข้ามาประกอบศาสนกิจนั้นตะเกียงดวงนี้อยู่ที่มัสยิดอยู่แล้ว โดยถูกวางอยู่ใกล้กับแท่นมิมบัรของมัสยิด ภายหลังได้ถูกเคลื่อนย้ายมาเก็บไว้ในตู้

นายอาซาน บุญเกษม บิหลั่น เปิดเผยว่าเพิ่งทราบจริงๆ ว่าสิ่งนี้คือของสำคัญมากๆ มีการใช้ในงานพระบรมศพรัชกาลที่ 5 ที่มาอยู่ที่นี่อยากร้องขอให้หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญมาช่วยบูรณะให้เหมือนดังเดิม จะได้นำมาประดับไว้ที่มัสยิดไว้เป็นของสำคัญให้เยาวชนคนรุ่นหลังได้รู้จักได้ศึกษา

ขณะที่นายสามารถ สาเร็ม นักวิชาการประวัติศาสตร์มุสลิมภาคใต้ ระบุว่าตะเกียงนี้ถูกใช้งานในพลับพลาการพิธีพระบรมศพรัชกาลที่ 5 และมีหลักฐานภาพที่ปรากฏในสมัยนั้นอย่างชัดเจน ซึ่งปัจจุบันนั้นในภาคใต้พบเพียง 2 แห่งคือที่สงขลา 1 แห่ง และที่นี่อีก 1 แห่ง ตะเกียงนี้เป็นเครื่องสังเค็ดพระราชทานจากล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ภายหลังจากการพระบรมศพรัชกาลที่ 5 เสร็จสิ้น เครื่องใช้ต่างๆ ถูกส่งไปยังที่สำคัญๆ ทั่วประเทศ การมีอยู่ของตะเกียงในมัสยิดเก่าแก่ที่นี่ เป็นเครื่องยืนยันของความสัมพันธ์ที่สถาบันพระมหากษัตริย์ของประเทศไทย กับคนไทยทุกศาสนาไม่มีเว้น

หลังจากนี้อยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความเชี่ยวชาญในการดูแลวัตถุโบราณนำไปบูรณะเพื่อเป็นของสำคัญให้เยาวชนรุ่นหลังได้เรียนรู้ สำหรับการพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เมื่อ 16 มีนาคม 2453 หลังจากที่มีพระราชพิธีเสร็จสิ้นแล้ว เครื่องใช้ต่างๆ ในการพิธี ได้มีการพระราชทานไปตามสถานที่สำคัญของทุกศาสนาทั่วประเทศ แต่หาพบในปัจจุบันได้ยาก หากนับอายุรวมถึงปัจจุบันราว 113 ปีแล้ว