ลุงเครียด ฝากเงินธนาคาร 1 แสน ยอดขึ้นในสมุดแล้ว ตกค่ำพนักงานโทรแจ้งนับได้แค่ 9 หมื่น ให้เซ็นยินยอม ยันนับหลายรอบก่อนเอาไปฝาก

ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี ได้รับการร้องเรียนจากนายนิพนธ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ชาว จ.อุดรธานี ว่า พ่อนำเงิน 100,000 บาท ไปฝากธนาคารแห่งหนึ่งสาขาใน อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 22 ส.ค.65 ที่ผ่านมา แต่ช่วงค่ำเจ้าหน้าที่ธนาคารโทรมาบอกว่า เงินฝากไม่ครบเหลือแค่ 90,000 บาท ให้มาเซ็นยินยอม ตนเองความไม่ชอบมาพากลในเรื่องนี้ จึงอยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับชาวบ้านที่นำเงินไปฝากธนาคาร

นายนิพนธ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ส.ค.65 นายถี (สงวนชื่อสกุลจริง) เวลาเที่ยงกว่าได้นำเงินจำนวน 100,000 บาท ไปฝากธนาคารแห่งหนึ่ง สาขา อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อยื่นเงินให้กับเจ้าหน้าที่ธนาคาร จากนั้นพ่อก็หันหลังเดินไปนั่งอยู่เก้าอี้ โดยไม่ได้ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ผ่านไปประมาณ 10 นาที เจ้าหน้าที่ก็ยื่นสมุดเงินฝากกลับคืนมา พ่อตาเปิดดูมีการรันตัวเลขเงินฝาก เป็นเงินจำนวน 100,000 บาท จากนั้นก็ขับรถกลับบ้าน

ปรากฎว่าตอนเย็นเวลาทุ่มเศษของวันที่ 22 ส.ค.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ธนาคาร ก็โทรมาบอกพ่อตาว่า เงินที่ฝากมีแค่ 90,000 บาท พ่อตาตนเองก็ตกใจทำไมเป็นแบบนี้ ก็นับครบอยู่ ต่อมาก็มีเจ้าหน้าที่ธนาคารออกมาหาที่บ้านให้พ่อตาเซ็นเพื่อธนาคารจะได้เอาเงิน 10,000 บาทออกมาจากบัญชี แต่พ่อและลูกๆ ไม่ยอม ต่อมาวันที่ 30 ส.ค.65 พ่อลูกๆ ได้เดินทางไปที่สาขาใหญ่ธนาคารในตัวจ.อุดรธานี โดยทางผจก.แจ้งว่ามีเงินไม่ครบ และชี้แจงว่า เงินที่เจ้าหน้าที่ธนาคารนับเป็นธนบัตรใบละ 1,000 บาท จำนวน 62 ใบ รวม 62,000 บาท และธนบัตรใบละ 100 บาท จำนวน 280 ใบรวมเป็นเงิน 28,000 บาท รวมยอดทั้งสิ้น 90,000 บาท และทางธนาคารพยายามให้พ่อเซ็นยอมรับเพื่อจะเอาเงิน 10,000 บาทออกจากบัญชี แต่พ่อและลูกๆ ไม่ยอม

ตนเองสงสัยผิดปกติตั้งแต่ตอนแรก ไปขอกล้องวงจรปิดจากธนาคารก็ให้มาเพียงด้านหน้าและเหมือนภาพตัดต่อ เริ่มสงสัยจึงขอตัวเต็มไปอีกแต่ที่ได้ภาพมาก็ยังไม่เต็ม ตอนนี้พ่อตาผม สภาพจิตใจแย่มาก คิดมาก นอนไม่หลับ กินข้าวน้อยลง ผมไปถามพ่อตาแล้วยืนยันว่าเอาเงินแสน นับครบมั้ย พ่อตาผมก็บอกว่า พ่อตาและแม่ยาย และลูกชายอีกคนพากันนับถึง 3 ครั้ง ครบ 100,000 บาท ก่อนจะนำมาฝากธนาคาร ตนเองคงไม่ว่าใครผิดใครถูก แต่อยากฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ถึงคนฝากให้ยืนดูการนับเงินอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์เลย ส่วนพนักงานธนาคารก็ขอให้เช็กดีๆ ว่าตังค์ครบหรือไม่ครบ ถ้าไม่ครบก็ให้ทักท้วงตอนนั้นเลย ไม่ใช่ผ่านมา 6-7 ชม. ค่อยมาแจ้ง และหากเงินหายแค่ 500 หรือ 1,000 คงไม่ได้ว่า แต่นี่หายเป็นหมื่น มันหนักสำหรับพวกเรากว่าจะหาเงินได้ และเป็นแบบนี้ใครก็รับไม่ได้ ผมว่ามันแปลกเกินปกติ เจ้าหน้าที่มาเจรจาที่บ้านให้พ่อตาเซ็น พ่อตาก็ยังยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเอง จนเขาบอกว่าจะแจ้งความเพื่อให้ไกล่เกลี่ยกัน จนถึงตอนนี้ก็ตกลงกันไม่ได้ นายนิพนธ์กล่าวตอนท้าย

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายถี อายุ 54 ปี เปิดเผยว่า ยืนยันว่าเอาเงินจำนวน 100,000 บาท ไปฝากธนาคารจริงๆ เราช่วยกันนับหลายคนก่อนเอาเงินไป พอไปถึงธนาคารก็ยื่นให้เจ้าหน้าที่ ก็เลยไปนั่งเก้าอี้เพราะปวดขา พอเสร็จเจ้าหน้าที่ก็เรียกให้ไปเอาสมุดบัญชี เปิดสมุดบัญชีดูเห็นเงินฝาก 100,000 บาทก็กลับมาบ้าน พอตกเย็น เจ้าหน้าที่โทรมาบอกว่าเงินไม่ครบมีแค่ 90,000 บาท เงินพ่อขาดอยู่ 10,000 บาท ให้มาเซ็นยินยอมที่ธนาคารว่าเอาเงินเข้าแค่ 90,000 บาท ซึ่งพ่อตกใจมาก คิดว่ามันแปลก หากไม่ครบ ทำไมถึงไม่ทักท้วงตั้งแต่อยู่ธนาคาร ธนาคารต้องรับผิดชอบ เพราะหากผมฝากเงินไม่ครบทำไมไม่ท้วงตอนนั้น ผมขอยืนยันนับเต็มแสนแน่นอน และก็เคยมาฝากที่ธนาคารแห่งนี้บ่อยไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ตอนนี้ทุกข์ใจเงินหายตั้งหมื่นบาท