ลุงปีนขอบโทลเวย์ดอนเมือง ขู่กระโดด เรียกร้องขอเจอนักข่าว อ้างไม่พอใจการจัดการกลุ่มทุนจีนสีเทา ยอมสงบหลัง “ชูวิทย์” ให้เข้าพบ

เมื่อเวลา 20.30 น. (5 ม.ค.66) พ.ต.อ.มารุต สุดหนองบัว ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ได้รับแจ้งเหตุชายสูงวัยขึ้นไปนั่งบนขอบข้างทางบนยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ ขาออกหน้าศูนย์การค้าไอทีสแควร์ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจพร้อม พ.ต.ท.พัฒทยา วงศ์วานิช รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.จาตุรงค์ ติดนนท์ สว.สส. กำลังฝ่ายสืบสวนสน.ทุ่งสองห้อง และเจ้าหน้าที่สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 เจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบบรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุอยู่บนทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ ขาออกพบนายพรชัย อายุ 60 ปี หรือลุงเปี๊ยก หลักสี่ ลักษณะนั่งห้อยขาออกนอกขอบกั้นทางไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงยีนส์ สวมพระเครื่องเต็มคอ ทำทีจะกระโดดลงไปข้างล่าง เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการพูดคุย ทางลุงเปี๊ยกไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ และร้องขออยากพบสื่อมวลชน ต่อมามีผู้สื่อข่าวสายอาชญากรรม จากหลายสำนักได้เดินทางมาร่วมเจรจากับลุงเปี๊ยกโดยลุงเปี๊ยกได้ตะโกนบอกบอกสื่อไม่พอใจเรื่องการจัดการกับกลุ่มทุนจีนสีเทา พร้อมกลับกล่าวขื่นชมนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เนื่องจากนายชูวิทย์กล้าออกมาเปิดโปงเรื่องนายทุนจีนสีเทา ถ้ามีโอกาสอยากจะกราบขอบคุณนายชูวิทย์ที่ทำเพื่อบ้านเมือง

ขณะเดียวกันลุงเปี๊ยก ได้ร้องขอพบสื่อเพิ่มเติมและได้หันตัวห้อยขาออกไปด้านนอกเป็นที่น่าหวาดเสียวต่อผู้ที่พบเห็นทั้งด้านล่าง และด้านบน จากนั้นได้ขอสูบบุหรี่มวนสุดท้ายถ้ายังไม่มีสื่อมาเพิ่ม หรือได้พูดคุยกับนายชูวิทย์ เมื่อสูบหมดมวนก็จะกระโดดลงไปทันที ผู้สื่อข่าวจึงเสนอที่จะต่อสายโทรศัพท์ไปหานายชูวิทย์ ผ่านการเปิดสปีกเกอร์โฟน ลุงเปี๊ยกจึงมีท่าทีอ่อนลง ก่อนนายชูวิทย์ จะอนุญาติให้พาไปพบได้

ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ลุงเปี๊ยกได้ยอมเจรจากับผู้สื่อข่าว โดยทางผู้สื่อข่าวตกลงจะพาไปพบนายชูวิทย์ที่โรงแรมเดอะ เดวิส ซอยสุขุมวิท 24 ตามที่นายชูวิทย์ให้สัญญา ทำให้ลุงเปี๊ยกยอมสงบสติอารมณ์และลงมาจากบริเวณราวสะพานและเดินทางไปพบนายชูวิทย์ทันที

ต่อมาเวลา 22.10 น. ผู้สื่อข่าวได้พาลุงเปี๊ยกไปพบนายชูวิทย์ที่โรงแรม ซอยสุขุมวิท 24 ทันทีที่พบนายชูวิทย์ ลุงเปี๊ยกได้ก้มลงกราบขอบพระคุณโดยระบุว่ามีความปลื้มปิติที่ได้เจอนายชูวิทย์ตัวจริง พร้อมกับแสดงความชื่นชมในความกล้าหาญของนายชูวิทย์ที่ออกมาต่อสู้กับเรื่องกลุ่มทุนจีนสีเทาโดยไม่เกรงกลัวอิทธิพลจากฝ่ายใด แล้วบอกว่าการที่ออกมาก่อเหตุแบบนี้ ไม่ได้การต้องการสร้างกระแส แต่ต้องการออกมาต่อสู้เรียกร้องเหมือนกับที่นายชูวิทย์ทำ ไม่ได้ต่อสู้เพื่อตัวเองแต่อยากให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสังคม

ขณะที่นายชูวิทย์ได้เข้าไปสวมกอดและบอกกับลุงเปี๊ยกว่า อย่าก่อเหตุลักษณะเช่นนี้อีกพร้อมทั้งยืนยันกับลุงเปี๊ยกว่า ตนจะสู้เต็มที่ ถ้ามันสุดแค่ไหนก็ทำเต็มที่เท่านั้น และถ้าอยากเป็นกำลังใจขอให้คอยติดตามข่าวสารที่ตนนำเสนอต่อสื่อมวลชน โดยนายชูวิทย์ได้ติดต่อขอเบอร์ติดต่อลุงเปี๊ยกไว้เพื่อจะร่วมบริจาคโลงศพที่ลุงเปี๊ยกทำมาเป็นประจำด้วย แต่ขอให้ลุงเปี๊ยกรับปากว่าจะไม่ก่อเหตุอีก จากนั้นทั้งสองได้ถ่ายรูปร่วมกัน ก่อนที่ชุดสืบสวน สน.ทุ่งสองห้อง จะนำตัวลุงเปี๊ยกไปยังสน.ทุ่งสองห้อง เพื่อทำประวัติก่อนจะปล่อยกลับบ้านไป

///////////