ตามหาท่อบรรจุสารซีเซียม-137 หายออกจากโรงงานไฟฟ้า หวั่นเกรงผู้ไม่รู้เปิดจะเกิดอันตราย ใครครอบครองวอนส่งคืน

จากกรณี ที่มีข่าวท่อบรรจุสารซีเซียม-137 จากโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี หายปริศนาอาจถูกนำไปขายเป็นของเก่า อาจจะมีผลกระทบต่อสุขภาพ ปนเปื้อนกับสิ่งแวดล้อม  ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ถ้าผ่าท่อรังสีทำให้เนื้อเน่าเปื่อยภายใน 3 วันที่มีระดับรังสีเข้มข้น จนเป็นที่หวาดกลัวต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีเป็นอย่างยิ่ง

วันนี้ 14 มีนาคม 66 เวลา 15.00 น. นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วยนายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการนำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส) โดยที่เกิดเหตุนั้นอยู่ในบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ 2 ถนน ทางหลวง 3079 ตำบล ท่าตูม อำเภอ ศรีมหาโพธิ จังหวัด ปราจีนบุรี 25140 ประกอบธุรกิจประเภท ไฟฟ้า ก๊าซ ไอน้ำ และระบบการปรับอากาศ โดยให้บริการด้าน การจ่ายไฟฟ้า ติดตั้งวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137(Cesium –137, Cs -137) จำนวน 1 ชิ้น ห่อหุ้มด้วยท่อเหล็กกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ความยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัมใช้เป็นเครื่องมือวัดระดับของขี้เถ้าในไซโลของโรงไฟฟ้า ติดตั้งใช้งานเมื่อปี 2538

โดยเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2566เวลา 23.00 น. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยว่า วัสดุกัมมันตรังสีได้สูญหายจากบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด จากการรวบรวมข้อมูล ได้ความว่ามีวัสดุกัมมันตรังสีสูญหาย ประมาณวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 บริษัทฯ ได้สอบถามพนักงานขับรถที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ทราบว่า ได้ยินเสียงดังมากเหมือนว่ามีโลหะตกลงพื้น และไม่คิดว่าเป็นวัตถุอันตรายซึ่งวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ติดตั้งอยู่บนถังไซโลเก็บขี้เถ้า โดยมีความสูงจากพื้นดินประมาณ 16-17 เมตร คาดว่าวัสดุกัมมันตรังสีจะตกอยู่ในพื้นที่ 200 ตารางเมตรจากจุดที่มีการ ติดตั้งวัสดุกัมมันตรังสี วัสดุกัมมันตรังสีมีลักษณะเป็นแท่งทรงกระบอกมีตะกั่วปกป้องอยู่ชั้นในและห่อหุ้ม ด้วยเหล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ความยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัม และมีป้ายติดรายละเอียดแสดงข้อมูลของวัสดุกัมมันตรังสี และมีสัญลักษณ์ทางรังสีขนาดเล็กติดอยู่ โดยวัสดุกัมมันตรังสีผ่านการใช้งานมาแล้วประมาณ 28 ปี

หลังจากพบว่าสูญหายบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด ได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินภายในโรงงาน และจัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน จำนวน 50 คน โดยมีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติให้การสนับสนุนการปฏิบัติ เพื่อดำเนินการค้นหาวัสดุ กัมมันตรังสีซีเซียม-137 ที่สูญหาย ในพื้นที่โรงงานทั้งหมดโดยจาการตรวจสอบไม่พบวัสดกัมมันตภาพรังสีที่สูญหายภายในโรงงาน ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า อาจมีการนำวัสดุกัมมันตภาพรังสีออกนอกโรงงานไปแล้ว โดยเจ้าหน้าที่จากอำเภอศรีมหาโพธิ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และบริษัทฯได้ออกค้นหาและตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือวัดทางรังสีในพื้นที่ อำเภอศรีมหาโพธิ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง เช่น ร้านขายของเก่า ร้านรับซื้อเศษโลหะมือสอง เป็นต้น ซึ่งวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ที่สูญหาย เป็นวัสดุกัมมันตรังสีที่ มีตะกั่วปกป้องอยู่ชั้นใน และห่อหุ้มด้วยเหล็กโดยวัสดุกัมมันตรังสีจะอยู่ในชั้นในสุด หากวัสดุกัมมันตรังสียังอยู่ในสภาพเดิมจะไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม

และกรณีวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ที่สูญหาย มีการถอดประกอบหรือชำแหละเครื่องกำบังที่ ห่อหุ้มจนทำให้วัสดุกัมมันตรังสีมีลักษณะเปลือยเปล่า จะมีรัศมีการแผ่รังสีออกจากวัสดุกัมมันตรังสีประมาณไม่เกิน 1-2 เมตร หากมีการสัมผัสวัสดุกัมมันตรังสีโดยตรง จะทำให้ผู้สัมผัสเกิดผื่นแดง หรือเป็นแผลไหม้บริเวณที่สัมผัสวัสดุกัมมันตรังสี จากการประเมินสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ที่สูญหายได้หลุดออกจากเครื่องกำบัง ดังนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน
และสิ่งแวดล้อม

โดยในวันนี้ 14 มี.ค.ที่ห้องประชุม นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้หน่วยงานราชการ/บริษัทฯ ดำเนินการเตรียมความพร้อมในการรับมือกรณีวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 สูญหาย ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี ดำเนินการยกระดับภัย จากภัยระดับ 1 เป็นระดับ 2 ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี โดยจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม -137 จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อเป็นศูนย์ประสานการปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสี ดังกล่าวและ ให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปราจีนบุรี จัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของพนักงานในโรงงาน ที่อาจได้รับอันตรายจากวัสดุกัมมันตรังสี ดูแลการจ้างงานในกรณีมีการหยุดการทำงาน ตลอดจนสิทธิสวัสดิการของพนักงานในระหว่างที่หยุดการทำงาน ในระหว่างตรวจหาและแก้ไข ปัญหาวัสดุกัมมันตรังสีสูญหาย ประกอบกับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ประสานโรงพยาบาล เตรียมความในการบำบัดรักษาผู้ป่วย ที่ อาจได้รับผลกระทบจากวัสดุกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 สูญหายและเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องใน อำเภอศรีมหาโพธิ ตรวจค้นหาวัตถุดังกล่าว ในสถานประกอบการร้านค้าของเก่า และประเภทอื่นๆ ในพื้นที่

คืบหน้า วันที่ 14 มี.ค.66 ณ.ห้องประชุมศูนย์การเรียนรู้ ชั้น 4 ห้อง 402 ศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการ จังหวัดปราจีนบุรี, นายแพทย์สุรินทร์ สืบซึ้ง สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ,นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ,นายกิตติพันธ์ จิตต์เป็นธรรม ผู้แทนบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด ได้ร่วมกันแถลงข่าวโดยมีหน่วยงานของอุตสาหกรรม ,กระทรวงแรงงาน, ทหาร, ปภ.,สวัสดิการคุ้มครองแรงงาน, แพทย์และสาธารณสุข, สำนักงานจังหวัด, และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมรับฟังในครั้งนี้ด้วย

จากการสอบถามนายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการ จังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า” เบื้องต้นได้รับทราบจากโรงงานผลิตไฟฟ้า nps ว่ามีอุปกรณ์เครื่องวัด ซีเซียม 137 หายำปจากโรงงาน หลังจากนั้นได้แจ้ง ไปที่สำนักงาน ปรมาณูเพื่อสันติ ร่วมในการค้นหาโดยขณะนี้ใช้เวลาค้นหาได้ประมาณ 3 วัน ก็ยังไม่พบคาดว่าน่าจะมีผู้นำ วัสดุชิ้นนี้หรืออุปกรณ์เครื่องวัดออกไปนอกโรงงาน จึงขอประชาสัมพันธ์ ให้เผื่อพี่น้องประชาชนหากผู้ใดพบเห็น หรือผู้ที่ครอบครองโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือพี่น้องประชาชนที่อยู่โดยรอบบริเวณข้างเคียงไม่ว่าจะเป็นร้านของเก่า โรงงานหรือท่านใดก็แล้วแต่ ถ้าเห็นอุปกรณ์ ผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ความยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัม และมีป้ายติดรายละเอียดแสดงข้อมูลของวัสดุกัมมันตรังสี และมีสัญลักษณ์ทางรังสีขนาดเล็กติดอยู่ ก็อย่าไปจับหรือแตะต้องให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะได้ไปเก็บกู้นำกลับมาในสถาพที่ปลอดภัย

โดยสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137 นั้นถ้า มีการถอดหรือชำแหละเครื่องกำบังที่ห่อหุ้มจะมีรัศมีการแผ่รังสีประมาณไม่เกิน 1-2 เมตร ถ้ายังไม่มีการชำแหละเครื่องกำบังที่ห่อหุ้มอายุของตัวสารจะอยู่ได้ 300 ปี เมื่อได้รับซีเซียม-137 เข้าไปในร่างกาย จะกระจายไปทั่วร่างกาย ส่วนใหญ่จะสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อและส่วนน้อยอยู่ในตับและไขกระดูก แต่จะถูกขับออกโดยกระบวนการทางชีวภาพ ทางเหงื่อและ ปัสสาวะ 

ทั้งนี้ หากท่านใดพบเห็นวัตถุดังกล่าว ดังในรูปโปรดแจ้งกลับมาที่คุณอารีย์ จักษ์ตรีมงคล ฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด หมายเลขโทรศัพท์ 0858350190  (ตลอด 24 ชั่วโมง) สำหรับผู้ที่ชี้เบาะแสจนสามารถนำวัสดุกัมมันตรังสีที่สูญหายกลับมาได้ จะได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท