ตำรวจ สภ.สตึก รวบ 3 พระวัย 27,37,43 ทั้งขาย ทั้งเสพยาบ้า ปฏิเสธไม่ได้ขายซื้อมาแค่เสพ 129 เม็ด ทั้งสามอ้าง ในวัดมีแต่พระแก่ ต้องทำหน้าที่รับผิดชอบงานหนักภายในวัด ตัดหญ้า ตัดไม้ ทำความสะอาด เสพเพื่อให้ทำงานอึดเท่านั้น ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ จับสึกส่งดำเนินคดี

วันที่ 24 ส.ค.65 พ.ต.อ.วชิรวิทย์ วรรณธานี ผกก.สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในตำบลท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ว่ามีพระในวัดแห่งหนึ่งมีพฤติกรรมเสพ และค้ายาบ้า จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.สืบสกุล เกงขุนทด รอง ผกก.(สืบสวน) และพ.ต.ท.กรกช จงนิมิตรสถาพร สารวัตร(สิบสวน) สภ.สตึก ไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริง เมื่อไปถึงหมู่บ้าน พบพระรัตชัย หรือเครา กำบังกาย อายุ 27 ปี เป็นพระลูกวัด เดินสะพายย่ามอยู่ถนนในหมู่บ้าน จึงขอตรวจค้น พบยาบ้าจำนวน 129 เม็ด

จากการสืบสวนพบว่า พระเคราได้ขายยาบ้าให้กับพระอีก 2 รูป คือพระสุรไกร วงศ์คำ อายุ 37 ปี และเพระทับทิมสยาม กริชรัมย์ อายุ 43 ปี จึงตามตัวไปสอบสวนที่ สภ.สตึก เบื้องต้นทั้ง 3 ให้การรับสารภาพว่าเสพยาบ้าจริง ส่วนพระรัตชัย อ้างว่ายาบ้าทั้ง 129 เม็ด ตั้งใจซื้อมาเสพ ไม่ได้เอามาขาย แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เพราะมีพยานหลักฐานครบ พระทั้ง 3 รูป ให้การเป็นเสียงเดียวกันว่า สาเหตุที่เสพ เพราะภายในวัดมีพระทั้งหมด 9 รูป แต่ทำงานไม่ไหว เพราะชราภาพด้วยกันหมด เหลือเพียง 3 รูปที่พอมีกำลัง จึงได้รับมอบหมายให้ตัดหญ้า ทำความสะอาดทุกอย่างภายในวัด ซึ่งเป็นงานหนัก

นายสุรไกร ได้ออกมาเปิดเผยหลังถูกตำรวจนำไปสึก บอกว่า ตนบวชมาประมาณ 5 เดือน ก่อนจะมาบวชยอมรับว่าเคยเสพยามาก่อน สาเหตุที่บวชเป็นพระเพราะต้องการบวชทดแทนคุณพ่อแม่ ในงานฉลองอุโบสถของวัด ระหว่างที่อยู่ในวัด เห็นพระเครามีลักษณะท่าทางเหมือน ”คอเดียวกัน” จึงถามว่า ”มีของไหม” ขณะที่พระเครา ซึ่งมองตาตัวเองแล้วบอกว่า ”มี” เพราะเราคอเดียวกัน จึงซื้อยาบ้าจากพระเครา มาเสพวันละ 4 เม็ด โดยจะเสพตอนเช้ากับตอนบ่าย

ขณะที่ นายทับทิมสยาม อีกหนึ่งผู้เสพ เล่าว่า ทั้งวัดต้องทำงานกันแค่ 3 รูป ทั้งยังต้องตื่นมาจำวัด อ่านหนังสือ ถ้าไม่มียากระตุ้นทำงานหนักขนาดนี้ไม่ได้แน่นอน จึงเจียดเอาเงินจากเงินรับกิจนิมนต์ ไปซื้อยาบ้ามาเสพ ในราคาเม็ดละ 50 บาท สำหรับทางด้านคดี ตำรวจตั้งข้อหานายรัตชัย กำบังกาย ฐาน จำหน่ายโดยมีไว้ในการครอบครองและเสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ส่วนอีก 2 คน จะส่งไปบำบัดตามขั้นตอนต่อไป