พรรคภูมิใจไทยแถลงผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวันพุธ (17 พ.ค.) ว่าไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่มีนโยบายแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จึงออกเสียงสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคการเมืองที่มีนโยบายดังกล่าวไม่ได้

“พรรคภูมิใจไทย ไม่สนับสนุนนายกรัฐมนตรี ที่มีนโยบายแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พรรคภูมิใจไทย ขอเรียนว่าจุดยืนของพรรคภูมิใจไทย คือ ไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่มีนโยบายแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ตามที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เคยแถลงต่อสื่อมวลชนก่อนหน้านี้” พรรคภูมิใจไทย ระบุ

“จุดยืนนี้เป็นหลักการสำคัญของพรรคภูมิใจไทย ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง หรือต่อรองได้ พรรคภูมิใจไทย จึงไม่สามารถลงมติสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคการเมืองที่มีนโยบายแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ได้

พรรคภูมิใจไทยยืนยันว่าการกดดันใดๆ ทำให้พรรคเปลี่ยนจุดยืนไม่ได้ด้วย

“ทั้งนี้ การเรียกร้อง ข่มขู่ กดดัน ต่อพรรคภูมิใจไทย ให้สนับสนุนแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของ พรรคการเมืองที่มีนโยบายแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จะไม่มีผลให้พรรคภูมิใจไทย และสมาชิกพรรคภูมิใจไทยเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ และจุดยืนได้”

พร้อมเป็นฝ่ายค้าน

พรรคภูมิใจไทย ระบุอีกว่า พรรคพร้อมเป็นฝ่ายค้าน และพร้อมทำหน้าที่ปกป้องสถาบันหลักของชาติไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด

“ดังนั้น หากการจัดตั้งรัฐบาลที่มีนโยบายแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ประสบผลสำเร็จ พรรคภูมิใจไทย พร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เพื่อประโยชน์ของประชาชน และปกป้องสถาบันสำคัญของชาติอย่างสุดความสามารถ

พรรคภูมิใจไทย ขอเรียกร้องให้ฝ่ายเสียงข้างมาก เคารพและรับฟังเสียงข้างน้อย ตามหลักการประชาธิปไตย มิใช่ข่มขู่ และกดดันให้ต้องทำตามที่เสียงข้างมาก ต้องการ หรือกำหนด และขอเรียกร้องให้ พรรคการเมือง สมาชิกพรรคการเมืองที่กดดันให้พรรคภูมิใจไทย สนับสนุนแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีจาก พรรคการเมืองที่มีนโยบายแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ได้แสดงจุดยืนต่อกรณีการเสนอแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของท่านให้ประชาชนทราบด้วย

พรรคภูมิใจไทย ได้สอบถามความเห็นว่าที่ส.ส. ของพรรค ทั้ง 68 คน รวมถึงผู้สมัครรับเลือกตั้ง อีกประมาณ 300 คน ซึ่งกระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ได้รับข้อมูลตรงกันว่าประชาชนผู้ลงคะแนนให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทย มากกว่า 5 ล้านคน มีความเชื่อมั่นว่าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคการเมืองหลักทำหน้าที่ปกป้องสถาบันสำคัญของชาติ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยพร้อมจะทำหน้าที่นี้ตอบแทนประชาชนทุกคน ไม่ว่าพรรคภูมิใจไทย จะอยู่ในสถานะใดก็ตาม”