“ภูมิธรรม” ชี้ตำแหน่งประธานสภาฯ ต้องคุยในทีมเจรจาสองฝ่ายให้จบ บอกอะไรทำได้ก็ทำตามข้อบังคับ ไม่ใช่ตามอำเภอใจใครหรือพรรคใดพรรคหนึ่ง

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงย้ำถึงตำแหน่งประธานสภาฯ ว่าจะต้องเป็นของพรรคก้าวไกลเพื่อความรวดเร็วในการผลักดันกฎหมาย 45 ฉบับตามนโยบายพรรค รวมทั้งกฎหมายของพรรคอื่นและกฎหมายที่เสนอโดยประชาชน ว่า เดิมทีทั้งสองพรรคมีการตั้งทีมเจรจาในเรื่องต่างๆ อยู่ รวมถึงเรื่องของตำแหน่งประธานสภาด้วย ซึ่งทีมเจรจาของพรรคเพื่อไทยได้เสนอเรื่องดังกล่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว ว่าตำแหน่งประธานสภาควรเป็นของพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งประมุขฝ่ายบริหารไปแล้ว

ทางทีมเจรจาของพรรคก้าวไกลได้ระบุว่าจะรับไปพิจารณาหารือกันภายในแล้วจะประสานกลับมา ซึ่งทางเราก็รออยู่จนถึงตอนนี้ และก็ยังไม่ได้รับการประสานกลับมา เพื่อเชิญเราพูดคุยถึงเรื่องนี้แต่อย่างใด ดังนั้นการแถลงหรือพูดเรื่องดังกล่าวของสมาชิกพรรคก้าวไกลถือว่าเป็นเสียงสะท้อนของบุคคลนั้นๆ ไม่ใช่จากตัวแทนของทีมเจรจาแต่อย่างใด

ทุกพรรคมีสิทธิ์คิดได้ แต่ควรหารือกันด้วยเหตุผลจนได้ข้อสรุปผ่านทีมเจรจาของทั้งสองฝ่ายก่อนที่ใครจะมาแถลงต่อสาธารณะ หากตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นของพรรคเพื่อไทย การเดินหน้าผลักดันกฎหมายต่างๆ ย่อมว่ากันไปตามกฎหมาย กฎระเบียบวาระของสภาไม่มีอะไรที่ต้องขัดแย้งหรือต้องวิตกกังวล อะไรที่ทำได้ก็ทำ อะไรที่ทำไม่ได้ก็คือทำไม่ได้ ทุกเรื่องว่ากันไปตามกฎระเบียบข้อบังคับ ไม่ใช่ว่ากันตามอำเภอใจของใครหรือพรรคใดพรรคหนึ่ง

ส่วนที่หลายฝ่ายเสนอให้ตั้งคนกลางอย่างนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาตินั่งประธานสภา แทนเพื่อแก้ปัญหา นายภูมิธรรม ระบุว่า ทุกเรื่องยืนมาตั้งแต่ต้นว่าต้องพูดคุยในวงเจรจาของสองพรรคเท่านั้น รวมถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งพรรคเพื่อไทยยืนยันหลักการนี้มาตลอด การพูดคุยข้างนอกมีแต่จะสร้างความแตกแยกและสร้างปัญหามากขึ้น