“พุทธิพงษ์” เตรียมคุย กก.บห.ภูมิใจไทย ไม่มีความกดดันหลังเปลี่ยนพรรค อวย “อนุทิน” สามารถพาประเทศผ่านวิกฤติเศรษฐกิจได้
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวภายหลังสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดพระแก้วและศาลหลักเมือง ถึงความคาดหวังในการร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย ว่า ได้พักการเมืองมาซักพัก และเป็นวันแรกที่จะไปทำงานร่วมกับผู้บริหารพรรคภูมิใจไทย
จึงได้ชวนทีมงาน ส.ส.กทม.ที่เคยทำงานอยู่ด้วยกัน และได้ไปสังกัดพรรคภูมิใจไทยแล้วบางส่วน รวมถึงคนรุ่นใหม่ที่ร่วมทำงานกันมาได้ระยะหนึ่ง จึงถือโอกาสดีทำบุญไหว้พระ และช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้จะเข้าไปที่พรรค
เบื้องต้น จะคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยว่าจะดูแลพื้นที่ใดบ้างอีกครั้ง
ทั้งนี้ ไม่มีความกดดันหลังเปลี่ยนมาอยู่พรรคใหม่ และพรรคภูมิใจไทยยังไม่มี ส.ส.ในพื้นที่ กทม.ขณะนี้ หากดูจากทีมงาน ทั้ง ส.ส. ที่มาด้วย การนำเสนอนโยบายคนกรุงเทพฯ ซึ่งไม่ได้มาแค่คนเดียว มีคนรุ่นใหม่เกือบ 30 ชีวิตที่เข้ามาทำงานอย่างเป็นระบบ มีตัวแทนจากทุกเขตใน กทม. เข้ามาร่วมทำงาน
มีที่ปรึกษาซึ่งเป็นผู้บริหารของเขตต่างๆ ใน กทม. ช่วยกันแนะนำ คิดว่าการเลือกตั้งที่จะมาถึงแตกต่างกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา คนกรุงเทพฯ อยากได้นโยบายที่สามารถทำได้จริง และนโยบายที่หาเสียงไว้ต้องทำได้จริง คิดว่าครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีที่ภูมิใจไทยจะนำเสนอทางเลือกที่ดี คนรุ่นใหม่ให้เป็นทางเลือกของคนกรุงเทพฯ ซึ่งตนมั่นใจ
ส่วนตั้งเป้าได้ ส.ส.กทม. กี่คนนั้น ตอนนี้คงยังพูดไม่ได้ แต่คิดว่าคราวนี้เรามั่นใจเต็มที่ เฉพาะบุคลากรที่มีอยู่ตอนนี้ และจะมาสมทบอีกตนคิดว่าเรามีความพร้อมอย่างมาก
ส่วนตัวเลขอื่นๆ ว่าตั้งเป้าเท่าใดนั้น ตนมองว่าพวกเรามาด้วยความตั้งใจก็ต้องมีความพร้อมต้องตั้งเป้าไว้สูงเป็นธรรมดา แต่น้อยอย่างปัจจัยต่างๆประกอบกันอาจจะได้มากขึ้นกว่าที่ตั้งใจไว้ก็ได้ จึงขอโอกาสให้เข้าไปทำงานก่อน และจะนำเสนอพัฒนาการและแนวทางนโยบายต่างๆ ให้มากขึ้นและชัดเจนขึ้นทุกวัน
อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าสถานการณ์ของประเทศไทยค่อนข้างเปลี่ยนไปจากเดิม คิดว่าวันนี้หลังประเทศไทยผ่านวิกฤติเศรษฐกิจจากโควิด-19 จากนี้โรคระบาดเริ่มดีขึ้นและหลังจากนี้เป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจ การทำมาค้าขาย ปากท้องประชาชน
ซึ่งคิดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ และเชื่อว่านายอนุทิน มีความรู้ ความสามารถ และมีความพร้อมกับสถานการณ์แบบนี้ ภูมิใจไทยสามารถนำพาประเทศและประชาชนผ่านวิกฤติเศรษฐกิจ โดยเน้นเรื่องการเจรจาค้าขายระหว่างประเทศ สินค้าเกษตร อุตสาหกรรม ต้องทำให้ประชาชนเห็นว่าเงินในกระเป๋ามีมากขึ้น ความเป็นอยู่ดีขึ้น นั่นคือสิ่งสำคัญและเป็นโอกาสที่ตนเชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยจะนำเสนอเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจนและเข้มแข็ง
อย่างไรก็ตาม กังวลเรื่องพร้อมของพรรครวมไทยสร้างชาติที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพรรคพลังประชารัฐที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นผู้ที่มีความคร่ำหวอดในวงการการเมืองหรือไม่นั้น
นายพุทธิพงษ์ ระบุว่า การที่มีพรรคการเมืองหลายพรรคให้ประชาชนได้เลือก มองว่าเป็นเสน่ห์ เป็นความสวยงามของระบบประชาธิปไตยเพราะฉะนั้นการที่หลายคนมีความสามารถมีความรู้ เสนอตัวให้เป็นทางเลือกประชาชนก็เป็นสิ่งที่ดีมาก และตนเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากเห็น ซึ่งตนดีใจที่ได้เห็นแบบนี้ ในส่วนของตนและทีมงานก็มีความพร้อมและได้เตรียมตัวมาในระดับหนึ่งแล้ว