จากกรณี ที่มีข่าวท่อบรรจุสารซีเซียม-137 จากโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี หายปริศนาอาจถูกนำไปขายเป็นของเก่า อาจจะมีผลกระทบต่อสุขภาพ ปนเปื้อนกับสิ่งแวดล้อม  ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ถ้าผ่าท่อรังสีทำให้เนื้อเน่าเปื่อยภายใน 3 วันที่มีระดับรังสีเข้มข้น จนเป็นที่หวาดกลัวต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีเป็นอย่างยิ่ง

นายสนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ได้โพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊ก Sonthi Kotchawat ระบุว่า  สารซีเซี่ยม137 ที่สูญหายหากถูกนำไปยังโรงหลอมเหล็ก รังสีเบต้าและแกมมาซึ่งเป็นสารที่ก่อมะเร็งจะกระจายไปในอากาศในวงกว้าง

1.สารซีเซียม-137 หายไปจากโรงไฟฟ้าบริษัทเนชั่นแนลเพาเวอร์ แพลนท์ 5 A จำกัดตั้งอยู่ที่ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี โดยสาร กัมมันตภาพรังสีดังกล่าวขะถูกห่อหุ้มด้วยสารตะกั่วล้อมรอบและหุ้มด้วยท่อเหล็กกลมขนาด 5 นิ้ว ยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัมอีกชั้นใช้เป็นเครื่องมือวัดระดับของขี้เถ้าในไซโลของโรงไฟฟ้าโดยติดตั้งใช้งานตั้งแต่ปี 2538คาดถูกขโมย

2.ซีเซี่ยม137เป็นโลหะอ่อนสีขาวเงินที่ตีขึ้นรูปได้ง่ายจะมีสภาพเป็นของเหลวที่อุณหภูมิประ มาณ28องศา มีครึ่งชีวิตที่30ปีเมื่อสลายตัวจะปล่อยรังสีเบต้าและแกมมาซึ่งอันตรายมากและเปลี่ยนตัวมันจะเปลี่ยนเป็นสารแบเรี่ยม 137ที่สลายตัวปล่อยรังสีได้เร็ว

3.ในทางอุตสาหกรรมซีเซี่ยม137จะใช้ในการวัดความชื้นและความหนาแน่นในการก่อสร้าง, ใช้ในเครื่องมือทางแพทย์เพื่อรักษามะเร็ง,ใช้ในมาตรวัดกระแสน้ำในท่อ,ใช้วัดความหนาของสิ่งต่างๆ เช่น กระดาษ แผ่นโลหะ เป็นต้น

4.หากแท่งซีเซี่ยม137สูญหายหรือถูกขโมย บุคคลที่ครอบครองไปตัดหรือแกะออกจะได้รับอันตรายจากรังสีที่แผ่ออกมาได้เนื่องจากเป็นสารก่อมะเร็งเมื่อรับเข้าสู่ร่างกายเล็กน้อยโดยทางหายใจหรือผิวหนังรังสีจะถูดดูดซึมไปสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อ ตับและไขกระดูกสามารถถูกขับได้ทางเหงื่อและปัสสาวะแต่หากสูดดมหรือรับเข้าไปด้วยความเข้มข้นสูงหรือเป็นระ ยะเวลาพอสมควรจะก่อให้เกิดมะเร็งกับอวัยวะที่สัมผัส

5.หากท่อของสารซีเซี่ยม137ดังกล่าวถูกนำไปขายยังโรงแปรรูปเหล็กและถูกหลอมในเตาเผาจะอันตรายมากคือรังสีจะถูกปล่อยออกมาทางปล่องควันกระจายไปในสิ่งแวดล้อมและเกิดการเปรอะเปื้อนของรังสีเบต้าและแกมมาซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งอย่างรุนแรงในสภาพแวด ล้อมในวงกว้าง

6.ผู้ครอบครองทั้งร้านรับซื้อของเก่า โรงงานรีไซเคิล โรงงานหลอมหล่อเหล็ก ที่รับท่อหุ้มดังกล่าว ผู้ครอบครองถือว่ากำลังตกอยู่ในอันตรายหากนำไปกองไว้ฝนตก น้ำชะจะไหลปนเปื้อนลงในน้ำใต้ดิน น้ำผิวดิน หากนำไปหลอมยิ่งกระจายไปทางอากาศนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งในอนาคตอันใกล้