เด็กนักเรียนหญิง ถูกพระสงฆ์ครูพิเศษตีด้วยไม้พลองอย่างรุนแรง  ผู้ปกครองไม่ยอมดำเนินคดีถึงที่สุด ขณะที่เลขาศูนย์เสมารักษ์ เรียกทั้ง 2 ฝ่ายปรับความเข้าใจ ส่วนการดำเนินคดีอยู่ที่ผู้ปกครอง

วันที่ 30 ส.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้า กรณีที่ น้องเอ นามสมมุติ เด็กหญิง อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนสังกัดวัดแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.สุรินทร์ ถูกครูพิเศษซึ่งเป็นพระสงฆ์ สอนภาษาอังกฤษของโรงเรียน ลงโทษเฆี่ยนด้วยการใช้ไม้พลองลูกเสือตีที่ก้นอย่ารุนแรง พร้อมกับเพื่อนรวม 6 คน แม้บางคนจะมีอาการปวดท้องน้อยจากประจำเดือน แต่ก็ไม่เว้นถูกเฆี่ยนที่ก้นจนไม้พลองหักคามือ เหตุทำการบ้านส่งไม่ทันเวลา ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (30 ส.ค.65) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับ พ่อของน้องเอ กล่าวว่า  ตนขอถามหน่อยว่า เป็นพระแล้วมาทำแบบนี้ผิดไหม ยังไงตนก็ต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เป็นพระไม่น่าทำรุนแรง ถ้าตีเบาจะไม่ว่าเลย เล่นตีซะจนช้ำและบวม นอนแทบไม่ได้ กลับมาต้องทายายาย ทานยานอน เมื่อวานนี้ (29 ส.ค.65) ประมาณเที่ยวลูกสาวโทรมาบอกว่าพระอาจารย์ตีเนื่องจากทำการบ้านนส่งไม่ทัน ร้องห่มร้องไห้โทรมาให้พ่อไปหา ตนติดงานเลยให้น้องสาวไปแทน  มีรอยบวมช้ำที่ก้น ลูกสาวบอกว่าใช้ไม้ง่ามลูกเสือตี

ด้านยายของน้องเอ กล่าวว่า เห็นหลานสาวบอกว่าถูกกระชากไปตี คนที่ตีเป็นพระอาจารย์สอนวิชาภาษาอังกฤษ  มีคนบอกตั้งแต่หลานเรียนอยู่ชั้น ป.5 แล้ว  เราก็ไม่ได้สนใจ คิดว่าจะสอนให้ได้ดี ให้มีความรู้  ตกใจมาก ไม่เคยเห็นว่าครูตีขนาดนี้ เห็นหลานเจ็บ ตนเจ็บยิ่งกว่าหลาน เพราะเลี้ยงเขามาตั้งแต่เล็ก มีรอยตรงก้นทั้ง 2 ข้างเลย เขาบอกว่า หนูนอนไม่ได้เลยหนูปวด

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนที่เกิดเหตุ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับผู้อำนวยการโรงเรียน  แต่ถูกปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ พร้อมกับล็อคกุญแจประตูห้ามบุคคลภายนอกเข้า

ขณะที่ นางอรุณศรี  พันธุ์ศักดานนท์ เลขาศูนย์เสมารักษ์ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุรินทร์ เรียกผู้ปกครองและเด็กทั้ง 6 คนมาสอบถามข้อเท็จจริง พร้อมกับพระสงฆ์ซึ่งเป็นครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษ เข้ามาทำความเข้าใจกัน และห้ามครูคนดังกล่าวกระทำการรุนแรงแบบนี้อีก  ส่วนในเรื่องของการดำเนินคดีต่างๆ ก็อยู่ที่สิทธิ์ของผู้ปกครองที่จะดำเนินการตามหมายอย่างไรต่อไป