เศร้าทั้งหมู่บ้าน ป้าทรมานป่วยรุมเร้า เขียนพินัยกรรมแบ่งเงิน 1 ล้าน ให้หลานๆ หุงข้าวเต็มหม้อ เปิดประตูบ้าน ก่อนผูกคอตายใต้ถุน 

ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ร.ต.อ.สมเจตน์ นุชนารถ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งคนผูกคอเสียชีวิตที่บ้าน หมู่ 4 ตำบลโพธิ์พระยา อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช และมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกสูงหลังใหญ่ อยู่ในสวนมะม่วง ที่ใต้ถุนบ้านญาติได้ตัดเชือกนำร่างผู้เสียชีวิตลงมานอนไว้บนเตียง มีผ้าห่มคลุมอยู่ที่ข้างศพอยู่มีสมุดบันทึกเล่มใหญ่ พร้อมเชือกไนลอนขดใหญ่ที่ใช้ผูกคอวางอยู่ มีพี่สาว น้องสาวและญาติพากันร้องไห้กันระงม ตรวจสอบที่ลำคอมีรอยถูกเชือกรัด แต่ไม่มีบาดแผลอื่นและร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด

ในสมุดมีข้อความเขียนด้วยลายมือ ใจความว่า ไม่อยากทำแบบนี้ แต่ทนไม่ไหว ปวดมาก ขอบใจทุกคนที่มาถามมาดู ไม่อยากรบกวนทุกคนอีก ไม่ต้องเอาไปผ่าอะไรอีก แค่นี้ก็ปวดมากพอแล้ว พร้อมทั้งแจกแจงแบ่งเงินให้หลาน ระบุว่าเก็บไว้ให้ลูกเรียนและจัดงานทำบุญ 

สอบถาม นางสมบัติ อายุ 58 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นศิลปินแม่เพลงอีแซว ชื่อ สมบัติ ศรีประจันต์ ลูกศิษย์แม่ขวัญจิต ศรีประจันต์ เปิดเผยว่าตนมีพี่น้องร่วมกัน 4 คน เป็นผู้หญิงทั้งหมดผู้เสียชีวิตเป็นคนที่ 3 ส่วนตนเป็นน้องสาวสุดท้อง พวกเราประกอบอาชีพทำนาทำสวนมะม่วง ผู้เสียชีวิตเป็นโสดไม่มีครอบครัว ประกอบอาชีพทำสวนมะม่วง เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาพี่สาว สุขภาพร่างกายเริ่มไม่แข็งแรงมีอาการป่วย เป็นความดัน ไมเกรน และปวดท้อง ต้องเข้ารักษาตัวอยู่ประจำ อาการปวดหัว ความดัน เริ่มดีขึ้นส่วนอาการปวดท้องไม่ยอมหาย ไปหาหมอรักษาทั้งโรงพยาบาล คลินิก หมอแผนไทย และหมอดู อาการก็ไม่ดีขึ้น จึงทำให้พี่สาวเกิดความเครียด

ล่าสุด หมอโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช นัดไปตรวจส่องกล้อง วันที่ 17 พ.ย.นี้แต่ยังไม่ทันได้ไปพี่สาวก็มาก่อเหตุตัดสินใจ พี่สาวเคยบ่นให้ฟังเสมอว่าอาการปวดท้องนั้นทรมาน แม้พี่น้องลูกหลานทุกคนจะช่วยกันดูแลพาอย่างดีเจ็บไข้ ได้ป่วยก็พาไปหาหมอ แต่อาการปวดท้องก็ไม่หาย พี่สาวจึงเครียดและคิดมาก คิดว่าตัวเองจะสร้างปัญหาให้ญาติพี่น้อง เคยบ่นอยากตายเพื่อจะได้ไม่ทรมาน ตนและพี่สาวรวมทั้งลูกหลานก็พากันปลอบใจ และไม่คิดว่าพี่สาวจะคิดสั้น โดยก่อนที่จะก่อเหตุด้วยความที่พี่สาวเป็นรักหลาน พี่สาวได้เขียนหนังสือลักษณะคล้ายพินัยกรรม จัดสรรปันส่วนเงินที่มีอยู่ร่วม 1 ล้านบาทให้กับหลานสาวอย่างชัดเจนว่าให้หลานคนไหนบ้าง

นอกจากนี้ยังหุงข้าวไว้เต็มหม้อและเปิดประตูรั้วหน้าบ้านเอาไว้เพื่อให้พี่น้องเข้ามาอย่างสะดวกและมีข้าวกิน จากนั้นจึงใช้เชือกผูกคอตัวเองติดกับขื่อใต้ถุนบ้านใกล้กับเตียงนอนเพื่อให้ญาติมองเห็นได้ชัดเจน ซึ่งญาติพี่น้องไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เชื่อว่าพี่สาวฆ่าตัวตายเอง

ทางด้าน นางพูนสิน อายุ 55 ปี เพื่อนบ้านที่เป็นคนพบผู้เสียชีวิตคนแรกเล่าด้วยน้ำตานองหน้าว่า ผู้เสียชีวิตมีบุญคุณและสนิทกับที่บ้านมาก มีอะไรก็จะแบ่งปันกันไปมาหาสู่ถามไถ่ทุกข์สุขกันตลอด และช่วงสายวันนี้ตนและสามีได้เตรียมมะม่วงมาฝาก โดยจอดรถไว้ริมถนนหน้าบ้านจากนั้นได้เดินเข้ามาที่บ้าน ครั้งแรกมองไกลๆ คิดว่า ผู้เสียชีวิตยืนรอตนอยู่ แต่พอสังเกตให้ดีก็เห็นว่าผู้เสียชีวิตผูกคอตัวเองห้อยอยู่ข้างเสาบ้าน จึงชวนสามีรีบวิ่งไปตามญาติพี่น้องที่อยู่ใกล้กันมาช่วยตัดเชือกนำร่างลงมาปั๊มหัวใจ เพื่อจะช่วยชีวิต ขณะเดียวกันก็โทรศัพท์แจ้งไปที่ศูนย์กู้ชีพ 1669 ให้มาช่วยแต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเอาไว้

ทางด้าน ร.ต.อ.สมเจตน์ นุชนารถ พนักงานสอบสวน เจ้าของคดีกล่าวว่าจากการสอบสวนและตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นคนดีไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใคร บริเวณใกล้เคียงก็มีแต่ญาติพี่น้อง และญาติพี่น้องก็ไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตจึงมอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาตามประเพณีต่อไป