พล.อ.ประยุทธ์ โวรัฐบาลนี้ทำอะไรก็เป็นที่ 1 ทุกเรื่อง วันนี้พูดได้มาในนาม “นายกฯ ของคนไทยทั้งประเทศ” ขอกำลังใจต้องดูแลลูกกว่า 70 กว่าล้านคน แย้มมีแนวทางแก้หนี้ให้รอดู

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจเยี่ยมบริเวณพื้นที่โครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ที่ วัดใหม่หญ้าไทร ตำบลลาดบัวหลวง อำเภอลาดบัวหลวง โดยนายกรัฐมนตรี กราบสักการะพระประธาน และนมัสการเจ้าอาวาสวัดใหม่หญ้าไทร และพบปะประชาชนในพื้นที่ โดยกล่าวว่า เห็นใจชาวพระนครศรีอยุธยาที่ต้องเดือดร้อนเพราะเป็นพื้นที่รับน้ำ แต่รัฐบาลก็ยังคงเดินหน้าแก้ไขปัญหานี้ให้ได้

แม้ว่าจะใช้งบประมาณมหาศาลแต่ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการมาโดยตลอดไม่ใช่แค่ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเท่านั้นยังจะต้องดูแลอีก 76 จังหวัด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความร่วมมือของพี่น้องประชาชน ในการเป็นพื้นที่รับน้ำ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ก็รู้ว่าประชาชนเดือดร้อนแต่ก็ดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาต่อไป มาที่ จ.พระนครศรีอยุธยา หลายครั้ง ก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น วันนี้ไปมาหลายวัดตนอธิษฐาน ขอให้บ้านเมืองชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน มีความสุขมีรายได้มากขึ้น และขอให้ตนสามารถทำงานได้สำเร็จ สุขภาพแข็งแรงครอบครัวปลอดภัย

นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงในช่วงที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประสบปัญหาอุทกภัยอย่างหนัก โรงงานขนาดใหญ่ได้รับผลกระทบ ซึ่งในขณะนี้ ตนดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ก็ได้มาช่วยเหลือ จึงทำให้เกิดความเชื่อมั่นและไม่ย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น อีกทั้งยังได้รับคำชมจากต่างประเทศ เรื่อง การจัดการสถานการณ์โควิด และการจัดทำโครงสร้างพื้นฐาน ที่เราเป็นลำดับสองของอาเซียน รองจากประเทศสิงคโปร์

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า วันนี้ไม่ได้หาเสียง แต่มาในนามของนายกรัฐมนตรีของคนไทยทั้งประเทศ ยอมรับว่า เหนื่อยและพูดมากมาทั้งวัน ซึ่งอยุธยาเป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์ ได้เจอกับทุกคนก็เหมือนเป็นพี่เป็นน้องเป็นตายายในยุคเดียวกัน พร้อมกับ ท่องคำขวัญ ว่าเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำ ซึ่งจะต้องปรับปรุงพันธุ์ข้าวบ้าง ลดราคาปุ๋ยลดต้นทุนจะมัวไปรอประกันราคาข้าวอย่างเดียวคงไม่ได้ เราต้องทำให้ข้าวของเราเป็นข้าวที่มีคุณภาพ

จะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจฐานรากของเราอยู่ได้ นอกจากนี้ในเรื่องของการท่องเที่ยวหลังจากที่ตนได้ลงพื้นที่เมื่อช่วงเช้า ก็พบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากขึ้น แต่ไม่มากเหมือนเมื่อก่อน นักท่องเที่ยวต่างชาติเจอนายกฯ ก็ดีใจ และดีใจที่ได้มาหลบหนาวในประเทศไทย เราต้องให้ความอบอุ่นเขา เจอฝรั่งก็ยิ้มอย่างเดียวไปเลย เจอใครก็ยิ้มไว้อย่าทะเลาะเบาะแว้ง เพราะประเทศไทยเป็นประเทศแห่งรอยยิ้ม ยิ้มสู้ไป เดี๋ยวก็ดีขึ้นใจเราก็ดี ไม่โกรธ ไม่เกลียด ไม่แช่งใคร อโหสิกรรมให้กันทุกเรื่อง ไม่ด่ากับใครใครให้อะไรมาตนก็อโหสิกรรมไป ไม่สร้างบาปให้กันและกัน

นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า อยุธยาได้รับการจัดเป็นลำดับที่ 1 ใน 50 เมืองทั่วโลกที่ควรเดินทางมาเยือนหลังสถานการณ์ โควิด-19 และเป็น 1 ใน 8 ของทวีปเอเชีย ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลทำมาทั้งนั้น “ขออย่าไปฟังคนที่ท้า เค้าโกหก”

นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีก อย่าไปเครียด ถ้าเครียดจะนึกอะไรไม่ออก พร้อมขอให้เห็นใจรัฐบาล เพราะต้องดูแลลูกกว่า 70 กว่าล้านคนซึ่งยอมรับว่า เหนื่อยนะ พอบ่นว่าเหนื่อย ก็บอกว่าออกไปสิ ก็พูดได้แค่นี้แหละ เหนื่อยแต่ก็จะทำ ขอกำลังใจให้ตนด้วย เพราะสุดท้ายแล้ว ตนก็จะทำให้ได้

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เจ็บมือ แต่ไม่เจ็บใจ ปลื้มใจไง สู้ทุกอย่างไม่ว่าจะเจออะไรไม่ยอมแพ้ทั้งสิ้น โดยเฉพาะความเดือดร้อนของประชาชน จะดูแลประชาชนให้ดีที่สุดในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศ ยืนยันว่า เวลาที่เหลืออยู่ไม่มากนักแต่จะทำให้ดีที่สุด ดังนั้น ขอประชาชนเห็นใจตนในจุดนี้ด้วย

พร้อมยังขออย่าไปฟังใครโม้มาก ว่าน้ำจะไม่ท่วม ขอให้ประชาชนไปศึกษาว่ารัฐบาลได้ทำอะไรไปแล้วบ้างตลอดระยะเวลาแปดปีที่ผ่านมา พร้อมชี้ไปที่ป้ายของตัวเอง ว่า “เดินมาไกลมากแล้ว หาให้เจอว่า ไอ้คนนี้ทำอะไรไปแล้วบ้าง” ซึ่งหลายอย่างทำไปแล้วหลายอย่างกำลังทำอยู่และต้องทำต่อ

ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามประชาชนว่าใครเป็นนี่บ้างขอให้ยกมือขึ้น นี่คือสิ่งที่สำคัญที่จะทำต่อแต่ยังไม่บอก ว่าจะลดหนี้ได้อย่างไร พร้อมกับหัวเราะอย่างร่าเริง ขอให้รออีกนิดนึง แต่รับรองว่าทำได้ จึงได้สร้างเสียงหัวเราะให้กับประชาชนที่ร่วมรับฟัง นายกรัฐมนตรีถามต่อว่า “รอได้รอได้หรือไม่” “เราต้องแก้ทำต่อให้สำเร็จ นะจ๊ะ”

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวติดตลกกับประชาชนว่า ขอให้ไปดูในทีวีบ้าง หากวันไหนที่นายกรัฐมนตรีไม่ค่อยหล่อแปลว่าวันนั้นหงุดหงิด แต่ไม่ได้หงุดหงิดกับประชาชน แต่หงุดหงิดกับคำถาม ปกติเป็นคนใจดี แต่ถ้าถามเมื่อไหร่หงุดหงิดเมื่อนั้น เพราะถามในสิ่งที่ไม่ควรตอบ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า วันนี้ได้มา เมืองพระ เมืองโบราณ บรรพบุรุษรักษาแผ่นดินผืนนี้ไว้กว่าจะได้มา เราปฏิเสธไม่ได้ แต่ท่านคงไม่อยากได้น้ำมากขนาดนี้ เรารักษาแผ่นดินนี้ไว้ได้เพราะเรามีน้ำ เมืองหลวงจึงไม่ถูกเขายึดไป เว้นแต่ตอนมีไอ้คนเลว คนทรยศ คนเลวมีทุกระยะ ไม่ต้องไปกลัว และอย่าไปส่งเสริมคนเลว คนเลวคือคนที่ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ได้ดูแลพี่น้องประชาชนอย่างสุจริตใจ อย่างนี้เค้าเรียกว่าเลว นายกยังไม่รู้ว่าดีหรือเลว อยู่ที่ประชาชนจะตัดสินใจ แต่ยืนยันว่าจะทำให้ สุจริตและบริสุทธิ์ใจมากที่สุด พร้อมย้ำว่าวันนี้ไม่ได้มาหาเสียงนะจ๊ะ อย่าไปดูไอ้คนในทีวีที่หน้างอๆ มันคนละคนกัน

สำหรับบรรยากาศการพบปะประชาชน นายกรัฐมนตรีได้ เดินรับดอกไม้จากประชาชนที่มาให้กำลังใจ และถ่ายภาพเซลฟี่ โดยมีช่วงนึง นายกรัฐมนตรีไม่สามารถรับดอกไม้ได้ เนื่องจากมือขวามีอาการเจ็บและบวม จึงให้ทีมงานรับดอกไม้แทน และเป็นที่น่าสังเกตว่านายกรัฐมนตรีพยายาม เลี่ยงที่จะให้ประชาชนสัมผัสที่มือขวา ที่มีอาการเจ็บและบวม