เจ้าหน้าที่รัฐในญี่ปุ่นและคาบสมุทรเกาหลี ออกคำเตือนเกี่ยวกับอุณหภูมิที่เย็นยะเยือกและลมกระโชกแรง ที่ล่าสุดทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คนแล้ว

พื้นที่ส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นเผชิญความหนาวเย็นรุนแรง และบางพื้นที่พบว่าอุณหภูมิต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี

STR / JIJI Press / AFPภาพถ่ายศาลาสีทอง วัดคิงกะกุ ในเมืองเกียวโต ของญี่ปุ่น ที่ถูกหิมะปกคลุมเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2566STR / JIJI Press / AFPประชาชนไปสักการะวัดเซงโก ใน จ.นะงะโนะ ท่ามกลางอากาศที่หิมะตกเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2566

นายฮิโระคะซุ มะสึโนะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตจากลมกระโชกแรงแล้ว 1 คน ส่วนอีก 2 คนกำลังสอบสวนถึงสาเหตุ แต่คาดว่าเกิดจากอากาศที่หนาวเย็น

STR / JIJI Press / AFPผู้คนในเมืองโทะยะมะ จ.โทะยะมะ เดินกางร่มเพื่อป้องกันหิมะที่ตกลงมาอย่างหนัก เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2566Fred Mery / AFPตำรวจในเมืองเกียวโต ของญี่ปุ่น พยายามทุบน้ำแข็งที่จับตัวบนพื้นถนนให้แตกและตักออก เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2566Kazuhiro NOGI / AFPน้ำแข็งเกาะรูปปั้นหงส์ในสวนสาธารณะฮิบิยะ ในกรุงโตเกียว ของญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2566

ส่วนเมื่อวันอังคาร (24 ม.ค.) อุณหภูมิที่พื้นที่หนึ่งระหว่างชายแดนเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ลดลงไปอยู่ที่ -25 องศาเซลเซียส ซึ่งต่ำที่สุดตั้งแต่มีการบันทึกมา

หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาของเกาหลีใต้ เผยเมื่อวันเดียวกันนี้ว่า คาบสมุทรเกาหลีเผชิญกับคลื่นความเย็น ที่ทำให้อุณหภูมิในกรุงโซลลดลงไปอยู่ที่ -16 องศาเซลเซียส ถือเป็นวันที่หนาวเย็นที่สุดของฤดูหนาวนี้

ด้านสถานีวิทยุกลางของเกาหลีเหนือรายงานว่าอุณหภูมิในพื้นที่ทางเหนือของประเทศติดลบไปถึง -30 องศาเซลเซียส ส่วนที่กรุงเปียงยางลดลงไปอยู่ที่ -19 องศาเซลเซียสเมื่อเช้ามืดวันพุธ (25 ม.ค.)

ขณะเดียวกัน ที่ประเทศจีน ก็พบว่าหลายพื้นที่มีอุณหภูมิต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ด้วย เช่น เมืองมว่อเหอ ในมณฑลเฮย์หลงเจียง ทางเหนือสุดของประเทศ ใกล้ชายแดนรัสเซีย ที่พบว่าอุณหภูมิหนาวยะเยือกถึง -53 องศาเซลเซียส