บิ๊กโจ๊ก เผยสอบในคุก “แอม ไซยาไนด์” ให้การเป็นประโยชน์ ไม่มีท่าทีเครียด ยังร้องไห้สลับกับหัวเราะ มั่นใจหลักฐานที่มีมัดตัวได้แน่นอน
วันนี้ (13 พ.ค. 66) ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยพ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผบก.สส.ภ.4 ในฐานะชุดคลี่คลายคดี แอม ไซยาไนด์ และคณะพนักงานสอบสวน นำ “แก้ว” พยานปากสำคัญ ซึ่งเป็นบุคคลที่แอมไว้วางใจเข้าไปพบภายในทัณฑสถานหญิงกลาง โดยแก้วมีความประสงค์จะเข้าไปพบแอมเอง คาดว่าต้องการไปพูดคุยให้แอมรับสารภาพ และอาจจะสอบถามถึงเรื่องทรัพย์สินดังกล่าว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้นัดเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายมาบูรณาการร่วมงาน ทั้งฝ่ายสืบสวน สอบสวน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งก็ถือว่ามีความคืบหน้า เพราะแอมให้การเป็นประโยชน์ขึ้นเยอะ มีการรับข้อเท็จจริงบางส่วน ปัจจุบันไม่หนักใจแม้แอมจะไม่ยอมรับสารภาพเรื่องลงมือฆ่า เพราะพยานหลักฐานเชื่อมโยงหมดแล้ว และภายในสัปดาห์หน้าตนจะเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม และจะสรุปสำนวนการสืบสวนสอบสวนให้อัยการ
ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องจะมีการแจ้งข้อกล่าวหา ตามพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ ซึ่งมีมากกว่า 1 คน ประเด็นเรื่องกระเป๋าแอมรับสารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐานว่าส่งไปให้แก้วจริง ในขณะที่ประเด็นเรื่องเงิน 5 หมื่นบาทของก้อยที่หายไปนั้น แอมแย้งว่าก้อยไม่มีเงินอยู่จริง ส่วนโทรศัพท์ไอโฟนที่หายไป แอมรับสารภาพว่าเอาไปทิ้งพร้อมให้เหตุผลว่าไอโฟนสามารถตามหาพิกัดได้ง่าย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับแก้วนั้น จากการสอบสวนพบว่าแก้วไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น เพราะแก้วไม่ได้อยู่คอนโดที่แอมส่งพัสดุไปนานแล้ว แต่มีพัสดุมาส่งที่คอนโด แก้วเห็นว่าผิดปกติเนื่องจากตนไม่ได้สั่งของจึงแวะเข้าไปเอาพัสดุ จากนั้นแก้วติดต่อมูลนิธิและมาเปิดพัสดุต่อหน้าตน ส่วนเหตุผลที่แอมส่งพัสดุไปให้แก้วนั้น เพราะแก้วคือคนใกล้ชิดที่แอมไว้ใจมาก เนื่องจากที่ผ่านมาทั้ง 2 คนช่วยเหลือกันมาตลอดทุกเรื่อง รวมทั้งแอมเคยเป็นลูกหนี้ของแก้ว แต่จ่ายหมดเรียบร้อยแล้ว
จากการสังเกตุอาการแอมวันนี้ไม่มีท่าทีเครียด มีร้องไห้สลับกับหัวเราะ และแอมเชื่อทนายความเป็นหลัก ส่วนสาเหตุที่ไว้ใจทนายความคนก่อนมากกว่าแก้ว เพราะแอมมีข้อมูลว่าแก้วไปออกรายงานต่างๆ และแก้วอยู่กับตำรวจ แอมจึงรู้สึกไม่ปลอดภัย
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า สำหรับคดีนี้ทำสำนวนทันแน่นอน ซึ่งจะทยอยส่งทั้ง 15 สำนวน ก่อน 7 ฝาก ส่วนเหยื่อ รายที่ 16 จะรวบรวมหลักฐานเพิ่ม เพราะยังมีอีกหลายคดีที่น่าสงสัย