กรณีสังคมอนนไลน์เผยแพร่คลิปวิดีโอ การ์ดของสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านข้าวสาร ใส่กุญแจมือชายนักท่องเที่ยว และตบใบหน้าอย่างรุนแรงหลายครั้ง โดยอ้างว่านักท่องเที่ยวคนดังกล่าวขโมยของ

ล่าสุด นายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ นำตัวนักท่องเที่ยวรายนี้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับทางเจ้าของผับและการ์ดที่ก่อเหตุ

ด้านนาย Carkhuff ผู้ประสบเหตุเล่าว่า เหตุเกิดเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 24 ก.พ. ต่อเนื่องวันที่ 25 ก.พ. เวลาประมาณ 02:00น. ตัวเอง น้องชายและเพื่อนผู้หญิงสองคนไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งนี้ ซึ่งขณะนั้นทางเพื่อนได้สั่งเบียร์มาดื่ม 2 ขวด โดยบาร์เทนเดอร์ได้ยื่นน้ำเปล่าให้ด้วย ตัวเองนึกว่าน้ำฟรีจึงถือกลับโต๊ะ ประกอบกับที่อเมริกา หากลูกค้าเริ่มมีอาการมึนเมา ทางสถานบันเทิงจะให้น้ำเปล่าฟรีแก่ลูกค้าทันที ตนจึงเข้าใจเช่นนั้น

ต่อมาการ์ดของร้านได้เดินมาเรียกตัวเองไปคุย โดยพาไปเจรจาอีกห้อง มีการล็อคกุญแจมือ และทำร้ายร่างกายตบหน้าประมาณ 2-3ครั้ง ก่อนใช้มีดยาวข่มขู่ โดยกล่าวหาว่าตัวเองขโมยน้ำดื่มมา หลังจากวันเกิดเหตุเพื่อนได้แนะนำให้ตัวเองปรึกษาทนาย ก่อนเข้ามาแจ้งความในวันนี้

ยืนยันว่าที่ตัวเองนำน้ำดื่มกลับมาเป็นเพราะคิดว่าบาร์เทนเดอร์ให้ฟรีเนื่องจากในต่างประเทศเมื่อซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว บาร์เทนเดอร์มักให้น้ำเปล่ามาฟรีด้วยจึงคิดว่าประเทศไทยก็น่าจะเหมือนกัน ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาขโมยอย่างแน่นอนเนื่องจากตัวเองมีเงิน

ส่วนประเด็นที่มีข่าวว่า พบยาเสพติดในวันเกิดเหตุ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ตัวเองไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมาก่อน

นักท่องเที่ยวคนนี้บอกว่าตัวเองเข้ามาทำอาชีพครูสอนภาษาที่ประเทศไทยกว่า2ปี แล้วกลับไปทำงานเป็นช่างปะปาที่สหรัฐอเมริกา โดยกลับมาเที่ยวที่ประเทศไทย ช่วงเดือนมกราที่ผ่านมาและมีกำหนดจะกลับในเดือนเมษายน บอกว่าที่ผ่านมา ตัวเองประทับใจในประเทศไทย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้กระทบกับความรู้สึกของตัวเองที่รักเมืองไทยและรักคนไทยเหมือนเดิม

ด้านทนายเกรียงศักดิ์ บอกว่าแต่วันนี้ที่มาแจ้งความ ในส่วนของการ์ด จะแจ้งความในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย และพกพาอาวุธมีด อีกทั้งอยากให้ตำรวจตรวจสอบว่าสถานบันเทิงดังกล่าวมีการเปิดให้บริการเกินที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ยืนยันหลังจากเกิดเหตุทางร้านไม่เคยติดต่อกลับไปหาผู้เสียหายเลย

ขณะที่วันนี้ทาง นายประสิทธิ์ สิงห์ดำรงค์ ทนายความของทางร้าน พร้อมด้วย นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจถนนข้าวสาร ได้เดินทางมารอเจราไกล่เกลี่ย เพิ่มแสดงความรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นโดยบอกว่าที่ผ่านมาพยายามติดต่อหาผู้เสียหายแต่ไม่สามารถติดต่อได้ เมื่อรู้ว่าวันนี้ทางผู้เสียหายจะเข้ามาแจ้งความจึงรีบมารอขอเจรา

นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจถนนข้าวสาร บอกว่าหลังเกิดเหตุได้พูดคุยกับกลุ่มการ์ดผู้ก่อเหตุ บอกว่าเป็นความเข้าใจผิดคิดว่านักท่องเที่ยว จะขโมยน้ำดื่ม แต่ก็ยอมรับว่ามีการใส่กุญแจมือซึ่งเป็นการทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เรียกเจ้าของร้านมาทำความเข้าใจมาตรการ โดยมีการสั่งปิดสามวันตามที่ทำข้อตกลงกันไว้ในมาตรการ

ขณะที่ทนายของร้าน บอกว่า ทางร้านไม่ได้ละเลยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังเกิดเหตุทางร้านได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมไล่การ์ดชุดที่ดูแลความปลอดภัยวันเกิดเหตุออก6คน รวมทั้งผู้จัดการร้านอีก1คน จากการตรวจสอบยืนยันว่าการ์ดไม่ได้ใช้อาวุธมีดก่อเหตุตามที่นักท่องเที่ยวอ้าง ส่วนเรื่องการใช้กุญแจมือปกติจะต้องเป็นการ์ดที่ผ่านการอบรมจึงจะใช้ได้ แต่การ์ดชุดนี้ใช้กุญแจมือโดยพลการ