จากการกรณีมีคลิปบุกจับโจรที่ถูกแชร์ทั่วโซเชียล ซึ่ง ดีเจมะตูม-เตชินท์ พลอยเพชร เป็นหนึ่งในผู้ร่วมเหตุการณ์ จนทำให้เกิดแฮชแท็ก #ก้งมะตูมจับโจร ติดเทรนด์ร้อนกลายเป็นประเด็นข่าวดัง ล่าสุดเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดย มะตูม เผยว่า “ที่เกิดเหตุการณ์จัดฉาก เพราะน้องก้ง ผู้เสียหาย โดนหลอกไปเกือบ 8 ล้าน แล้วเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับชื่อเรา เพราะเขาบอกว่าสนิทกับเรามาก ทำให้เขาร่วมลงทุน ทั้งลงทุนทอง ธุรกิจเวลเนส มันเลยทำให้เราไม่สบายใจ คิดว่าเด็กคนนึงไม่ควรโดนหลอกไปซึ่งๆ หน้าแบบนี้ คิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่ถูกต้อง ก็เลยอยากออกมาช่วย พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจ เราไม่ได้เป็น 1 ในขบวนการสมรู้ร่วมคิดกับคนนี้ เลยเซ็ตเหตุการณ์เพื่อจับโจร”

“ตั้งแต่ทราบว่าเขามีคดีติดตัว เลยเฟดตัวออกมา ช่วงนั้นเขาอยู่กับก้งตลอด ประมาณ 3-4 อาทิตย์ ที่เขาอ้างชื่อเราตลอดเวลา ซึ่งเขา 2 คนรู้จักกันไม่ถึงเดือน ซึ่งตูมรู้จักคนนี้ไล่เลี่ยเป็นหลักวัน แต่เขาไปบอกว่าเขาสนิทกับตูม กับก้งมาก”

“คือเขาเข้ามาที่ร้านเหล้าปกติ ทำเหมือนตัวเองเป็นลูกค้ารวยๆ คนหนึ่ง มาเปย์มาเลี้ยงเรา มาหลอกเลขา มาบอกว่าอยากให้เราทำธุรกิจเวลเนส ตอนแรกจะจ้างให้เป็นพรีเซนเตอร์ก่อน แต่จู่ๆ บอกว่าให้เป็นหุ้นเลยแล้วกัน เดี๋ยวให้เป็นเปอร์เซ็นต์นะ แต่ว่าไม่มีเวลาไปประสานงาน ให้เลขาไปประสานงานให้แล้วกัน เดี๋ยวให้เป็นเปอร์เซ็นต์ แต่วันจ่ายเงินไม่มา เหมือนให้เราเสียหน้า เราก็เลยรู้ว่าคนนี้ไม่ชอบมาพากลแล้ว”

“ต้องขอบคุณเหตุการณ์นี้ เพราะว่าเป็นเหหตุการณ์ที่เขาให้เลขาตูมไปเอาที่ ถ้าไม่เชื่อจะโอนเงินให้ก่อน 1 ล้านบาท เพื่อไปจ่ายเจ้าของที่ ยืนยันว่าเอาที่นี้แน่ แล้วเขาโอนมาจริงๆ 1 ล้านบาท เข้าบัญชีเลขาตูม แล้วไม่ถึง 1 ชั่วโมงบอกให้คืนกลับไป บอกว่าเดี๋ยวไปจ่ายเงินสดเอง ให้เลขากลับบ้านไปได้เลย ซึ่งอันนี้เป็นจุดบอดเขา พอโอนเงินมันเป็นธุรกรรม เราสามารถเอาชื่อไปเช็กได้ เราเลยไหวตัวทันเอาชื่อไปเช็ก เลยรู้ว่าเขาเคยมีคดีติดตัวเรื่องถุงมือยาง และเอทีเค หลาย 10 ล้านบาท”

“เรื่องจัดฉาก น้องก้งบอกว่าฟ้องแน่ เพราะเขาเสียหายไป 8 ล้าน เขาปรึกษาทนาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ เรื่องนี้ต่อให้ไม่ได้เงิน เขาต้องเอาคนผิดเข้าคุกให้ได้ เขาเลยติดต่อมาทางตูม ว่าถ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ช่วยหน่อย แค่พี่มะตูมโพสต์ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง มันก็อาจว่าพี่มะตูมมีส่วนเกี่ยวข้องหรือเปล่า เราก็แบบเธอ ฉันเพิ่งรายงานตัวครบนะจ๊ะ เรื่องโควิดฉันเพิ่งผ่านไป ฉันมาโดนเรื่องนี้อีก”

“เราก็เลยมองว่า ตูมจะผิดอะไรก็ได้ แต่ตูมไม่มีวันเอาเงินและโกงคน เราเลยโอเค จะให้ช่วยอะไร เขาบอกว่าช่วยเอาเขามาเจอหน่อยได้มั้ย หนูอยากถามว่าโกงทำไม และเงินอยู่ที่ไหน จะเอาเงินคืน เลยบอกว่าถ้าทำในที่สาธารณะอันตรายนะ เลยมาทำที่ร้านอาหารของตูมที่อารีย์ ในวันที่ร้านปิด แล้วเอาคนมานั่งเซ็ตภาพเหมือนร้านเปิด เพราะมิจฉาชีพคนนี้อยากเจอตูมอยู่แล้ว เพราะเขาไม่รู้ว่าตูมรู้ เขายังไม่ได้เงินจากตูม และตูมพยายามบ่ายเบี่ยงตลอด”

“และตูมก็นัดเขา ซึ่งเขาก็มาจริงๆ มากับเหยื่ออีกคนนึง ที่บอกว่าเป็นเจ้าของเต้นท์รถ ซึ่งพอถึงร้านก็เกิดเหตุการณ์ตามในคลิป ทำให้เขาถูกจับกุมไป ตูมทำหน้าที่พลเมือง แต่ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่จับคน ซึ่งวันนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูสถานการณ์ด้วย ซึ่งวันนั้นไม่ได้มีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกาย มากสุดคือเอาน้ำอัดลมราดหัว”

“ผู้เสียหายโดนรวมกันเป็น 100 ล้าน ผู้หญิงอายุไม่ถึง 30 มีคดี 34 คดี เขาจะทำคนเดียวได้หรือเปล่า มีทั้งหวย มีทั้งเช็กเด้ง ทั้งพรบ.คอม ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งตูมเคยเจอทั้งเขาและสามี ซึ่งสามีของเขาตอนนี้เงียบหาย ซึ่งตูมยังไม่ฟันว่าเกี่ยวข้องไหม ใครคิดว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่อยากถูกมองว่าสมรู้ร่วมคิดกับโจร ทักมาแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยกัน

“ตอนนี้เขาถูกคุมตัวอยู่ ส่วนเงิน 8 ล้านจะได้คืนมั้ย อยากให้ได้คำตอบว่าได้คืน เพราะ 8 ล้านเพิ่งโอนไปไม่ถึงเดือน เงินน่าจะไม่ได้หายไปไหน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้คืนมั้ย เพราะล่าสุดเขาบอกว่าเขาไม่มีแล้ว”

“วันนั้นกลัวว่าเขาพกระเบิด เพราะไม่รู้ว่าใครที่จะใส่กำไล EM จะกล้าทำแบบนี้ เพราะส่วนตัวคิดว่าคนที่ใส่กำไล EM คือคนที่รอตัดสินคดี แต่เราเห็นเขาใส่กางเกงผ้าพริ้วๆ ตอนยื้อมีคนมากระซิบบอกว่า มีวัตถุอะไรตรงขา เราคิดว่าไม่ระเบิด ก็ปืน เพราะเห็นในคลิปตูมจะค่อยๆ เพราะกลัวจะระเบิด แต่พอไม่ใช่ก็โล่ง”

“หลังจากเป็นข่าว มีคนส่งข้อมูลมาให้เยอะมาก บางคนไม่สามารถส่งลูกเรียนต่อได้ บางคนจะฆ่าตัวตาย บางคนล้มละลาย บางคนมาจากต่างจังหวัดตั้งแต่ ตี 5 บางคนขอบคุณที่ทำให้เป็นข่าว เขาอายุไม่ถึง 30 ปี ทำหลายอย่างเยอะมาก เปลี่ยนชื่อเป็น 10 ชื่อนามสกุลที่อยู่”

“เรื่องข้อกฎหมายตูมก็ยังไม่ทราบ แต่เขาไปถึงโดนจับกุมเลย แต่เป็นคดีอื่น เหมือนเราช่วยจับ ไม่ใช่เรื่องของตูม เราอาจมีความผิดทางกฎหมาย ย้ำเราไม่ได้ทำตามอำเภอใจ เรามีการปรึกษา ทำในพื้นที่ตัวเอง เพื่อให้ควบคุมได้ ซึ่งตนยังไม่มีทนายเลย เราออกมาปกป้องชื่อเสียง ทั้งที่เรายังไม่ได้เสียหาย คาดว่าเร็วๆ นี้จะมีทนาย”

“ซึ่งถ้ามีคนจะฟ้องตูมน่าจะมีคนเดียว คิดว่าเขายังไม่ฟ้อง เพราะเขาน่าจะเคลียร์ของเขาอีกเยอะ แต่ถ้าตนจะมีความผิดเพราะทำแบบนี้ ตูมก็ยอมรับ เป็นดาราไม่รู้หรอก ถ่ายรูปกับใคร แล้วเราจะไปรู้ว่าใครเป็นมิจฉาชีพ เหนื่อยอยากขอโทษแม่ เพราะเคยสัญญากับแม่ว่าจะไม่เป็นข่าว แต่อยากให้แม่รู้ ตูมบริสุทธิ์ใจ และศรัทธาในความดีความชอบ ถ้าไม่ทำจะรู้เหรอมีผู้เสียหายรวมๆ 100 ล้าน”