นายมาซิดี มันจุน ผู้บริหารด้านโควิด-19 ของรัฐซาบาห์ ทางตะวันออกของมาเลเซีย ประกาศเมื่อวันพุธ (4 ม.ค.) ว่าจะขอให้ผู้เดินทางมาจากจีนทุกคน ต้องแสดงผลการตรวจโควิด-19 แบบปฏิกิริยาลูกโซ่พอลิเมอเรส (พีซีอาร์) ว่าไม่พบเชื้อ ภายใน 48 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้ามา โดยจะมีผลวันอาทิตย์ (8 ม.ค.)

นอกจากนี้ ผู้ที่จะเดินทางจากจีนเข้าไปยังรัฐดังกล่าวจะต้องได้รับวัคซีนครบถ้วนด้วย

นายอะมินุดดิน ฮารุน หัวหน้าคณะผู้บริหารรัฐเนเกอรีเซิมบีลัน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงกัวลาลัมเปอร์ เผยในวันเดียวกันว่า คณะผู้บริหารรัฐกำลังพิจารณาว่าจะนำมาตรการสวมหน้ากากอนามัยมาบังคับใช้ ถ้าหากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สูงขึ้น แต่ขณะนี้สถานการณ์ในรัฐยังคงควบคุมได้

เช่นเดียวกับนาย เอ. ซิวาเนซัน ประธานคณะกรรมการสุขภาพรัฐเประ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่เผยว่า กำลังพิจารณาในเร็วๆ นี้ว่าจะบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยเหมือนเดิมหรือไม่

นายซิวาเนซัน กล่าวอีกว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังสนามบินสุลต่านอัซลัน ชาห์ ในเมืองอีโปะห์ และเมืองชายแดนเปิงกาลัน ฮูลู ที่ติดกับ อ.เบตง จ.ยะลา ของไทย อาจจะต้องถูกคัดกรองด้านสุขภาพด้วย

ด้านนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวหลังจากประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันพุธ (4 ม.ค.) ว่าจะมีการปรับมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ทุกจุดเดินทางเข้าประเทศ โดยเฉพาะต่อนักเดินทางที่มาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดรุนแรง เช่น จีน และ สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม นายอันวาร์ กล่าวว่า เมื่อปี 2565 มีชาวจีนเดินทางเข้าประเทศ 336,000 คน และถ้าหากนับเฉพาะเดือน ธ.ค. จำนวนอยู่ที่ประมาณ 53,000 คน แต่ก็ไม่ได้ทำให้การแพร่ระบาดในประเทศสูงขึ้น