ชาวบ้านแตกตื่น จู่ๆ มีภาพสาวสวยเซ็กซี่นอนอล่างฉ่างโชว์หัวนมขึ้นป้ายบิลบอร์ด โร่แจ้งตำรวจให้จัดการ ก่อนหงายเงิบเมื่อรู้ความจริง

เว็บไซต์ ETtoday รายงานว่า ในชุมชนเจ้อจื้อ เขตกวนเถียน ในเมืองไถหนาน ของไต้หวัน ซึ่งใช้ชีวิตเรียบง่าย มีประเพณีพื้นบ้าน และอนุรักษ์นิยม เกิดประเด็นถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อนในหมู่ชาวบ้าน

หลังจากเมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาที่ป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่ ปรากฏภาพสาวสวยผมยาว ในชุดสยิววาบหวิวนอนอยู่บนโซฟา ท่อนบนเปิดด้านหนึ่งจนเห็นหัวนม

ภาพดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างแสดงความไม่พอใจ เพราะมองว่าเป็นการขัดต่อธรรมเนียมปฏิบัติที่ดี ก่อนจะแจ้งตำรวจให้จัดการ

ปรากฏว่าทุกคนเข้าใจผิด! ตำรวจเปิดเผยว่า ป้ายโฆษณาดังกล่าวเป็นฝีมือของบัณฑิตชาย นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปะไถหนาน และผู้หญิงบนป้ายโฆษณาเป็นนักศึกษาชาย

จางลี่เหริน ผู้อำนวยการสถานีตำรวจกวนเถียน เมืองไถหนาน เปิดเผยว่า ในวันที่มีการติดตั้งป้ายโฆษณา “Naked Girl” ชาวบ้านไปแจ้งตำรวจโดยบอกว่าป้ายนี้สร้างความรำคาญให้กับสาธารณะ

หลังจากสอบสวนกับสำนักงานโยธาธิการเทศบาล ตำรวจยังได้รายงานไปยังมหาวิทยาลัยศิลปะไถหนาน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยชี้แจงว่าป้ายโฆษณาเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ซึ่งเป็นการแสดงออกทางศิลปะ ไม่ใช่โฆษณาลามกอนาจาร

หลังจากที่สำนักงานเขต สำนักกิจการสาธารณะ สำนักการขนส่ง และหน่วยงานอื่นๆ สอบสวนคดีนี้แล้ว ก็ตัดสินว่างานนั้นเป็น “โฆษณา” และนักศึกษาได้เช่าจากเจ้าของอย่างถูกกฎหมาย

ผู้อำนวยการจาง ยังกล่าวอีกว่า เจ้าของผลงานเป็นนักศึกษาชายแซ่หวู่ และ “ผู้หญิงเปลือย” บนป้ายโฆษณานั้นแต่งตัวโดยนักศึกษาชาย และไม่ใช่ผู้หญิง

ซึ่งตำรวจแสดงความเคารพต่องานศิลปะของเขา และยังส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ชาวบ้านอธิบายว่าป้ายโฆษณา “Naked Girl” เป็นงานศิลปะของนักศึกษา ไม่ใช่โฆษณาลามกอนาจาร

และหลังจากทราบความจริงแล้ว ชาวบ้านยังแสดงความเข้าใจ และเคารพในการแสดงศิลปะของนักศึกษา

ขณะที่ นักศึกษาชายแซ่หวู่ ได้โพสต์ชี้แจงผลงานศิลปะของเขาบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า เขาเป็นเด็กผู้ชายที่ดูเหมือนเด็กผู้หญิง

ซึ่งแรงบันดาลใจหลักในการสร้างสรรค์ผลงานของเขา เกิดขึ้นเนื่องจากครั้งหนึ่งเขาเคยโพสต์ผลงานของตัวเองลงเฟซบุ๊ก แต่ถูกตรวจสอบโดยระบบ AI และถูกแจ้งว่าเป็นเรื่องทางเพศ ก่อนที่โพสต์จะถูกลบโดยอัตโนมัติ ซึ่งทำเอาเขาถึงกับงง

ดังนั้นกระบวนการทั้งหมดของการเผยแพร่ภาพดังกล่าว ก็เพื่อดูปฏิกิริยาของผู้คนต่อเรื่องนี้ในโลกแห่งความเป็นจริง หรือก็คือการทดลองทางสังคมนั่นเอง