แพทย์แจงอีกมุม กรณีคุณปู่ 86 ปี ตายแล้วฟื้น ผู้ใหญ่บ้านเผยเหลือเชื่อ ญาติๆ เตรียมงานศพไว้หมดแล้ว แต่พอเข้าวัด คุณปู่กลับฟื้น

กรณีเหตุการณ์ตายแล้วฟื้นที่เกิดขึ้นกับ คุณปู่ประดิษฐ์ อายุ 86 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ตำบลควนกรด อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช

วันนี้ (7 ธ.ค.) เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ที่บ้านของคุณปู่กลางสวนยางพารา ปรากฏว่าญาติไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกครอบครัว รวมทั้งผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพ เนื่องจากแพทย์ รพ.ทุ่งสง ได้เตือนว่าไม่ควรที่จะให้บุคคลภายนอกเข้าไปในพื้นที่

เนื่องจากเกรงการติดเชื้อที่อาจทำให้คุณปู่ประดิษฐ์ อาการทรุดลงอีก ทำให้ทุกคนระวังอย่างมาก และปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลอื่นๆ อีกแล้ว เนื่องจากไม่สบายใจ และเกรงผลกระทบอื่นๆ ที่จะตามมาภายหลัง

ก่อนหน้านี้ หนึ่งในหลานสาวของคุณปู่ได้ถ่ายภาพและโพสท์ในเฟซบุ๊ก ส่วนตัวสภาพอาการของคุณปู่ที่ รพ.มหาราช อยู่ในสภาพที่ต้องใส่เครื่องช่วยชีวิต ไม่ตอบสนอง พร้อมทั้งภาวนาว่าขอให้ปาฏิหาริย์มีจริง

และ 3-4 วันให้หลัง หลานคนเดิมได้โพสท์อย่างดีใจสุดขีด พร้อมทั้งภาพของคุณปู่โดยบอกว่าตายแล้วฟื้น พร้อมระบุว่าปาฏิหาริย์มีจริง เพื่อนๆ ในเฟซบุ๊กต่างเข้ามาแสดงความยินดีจำนวนมาก

ขณะที่ นายสุเทพ รัตนคช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ตำบลควนกรด อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เข้ามาติดตามข้อมูลในเรื่องนี้เช่นกัน เปิดเผยว่า มาถึงขณะนี้เหลือเชื่ออาการของคุณปู่ปกติ ทุกอย่างกลับมาทำงานปกติ

วานนี้หลังจากนำตัวออกมาจาก รพ.มหาราช หยุดทำงานหมดแล้ว ไม่สามารถให้น้ำเกลือทางเส้นเลือดได้แล้ว ตอนนี้กลับมาพูดจารู้เรื่อง จำทุกคนได้ รับประทานอาหารอ่อนได้ แต่ยังอ่อนแรงอยู่เท่านั้น

ยังเชื่อว่าเป็นเรื่องที่เป็นปาฏิหาริย์จริงๆ แล้วคุณปู่ตัวแข็งหมดแล้ว นำคุณปู่ออกจากโรงพยาบาลมาทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมหมดแล้ว เพื่อจัดการงานบำเพ็ญกุศลตามประเพณี รดน้ำศพ แต่พอเข้าวัด คุณปู่กลับฟื้น

ด้วยความดีใจลูกหลานถามว่ากลับบ้านไหม คุณปู่บอกว่ากลับ หลังจากนั้นได้พากันไปตรวจร่างกายที่ รพ.ทุ่งสง ยิ่งเหลือเชื่อไปอีกทุกระบบในร่างกายกลับมาปกติ ส่วนงานศพนั้นได้ยกเลิกไป ท่ามกลางรอยยิ้มของทุกคน

ขณะที่ นายแพทย์สมพร สหจารุพัฒน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวผ่านทางเจ้าหน้าที่สุขศึกษา รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ว่า โดยข้อเท็จจริงนั้นยังไม่สามารถบ่งชี้ทางการแพทย์ได้ว่าผู้ป่วยเสียชีวิต เนื่องจากการขอนำตัวผู้ป่วยกลับไปนั้นผู้ป่วยยังไม่เข้าข่ายการเสียชีวิตตามลักษณะการบ่งชี้ทางการแพทย์

โดยบุคลากรทางการแพทย์ได้ดำเนินการไปตามความประสงค์ของญาติที่จะขอนำตัวกลับบ้าน ซึ่งขณะที่ออกไปนั้นยังไม่ได้เสียชีวิต เข้าใจว่าผู้ป่วยเกิดภาวะคุ้นเคยกับเครื่องช่วยหายใจ

หลังจากถอดออกไปร่างกายอาจปรับตัว เมื่อไม่มีเครื่อง กลไกการหายใจอาจหยุดไประยะหนึ่ง เมื่อถึงจุดหนึ่งสมองจะสั่งการให้ระบบจะกลับมาทำงานอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าทางวิชาการทางการแพทย์นั้นการตายแล้วฟื้นไม่เคยมีปรากฏ

ส่วนกรณีของคุณปู่นั้นหากมีอาการดีขึ้นขอแสดงความยินดี ลูกหลานต้องเพิ่มความระมัดระวังในการติดเชื้อ เนื่องจากร่างกายของคุณปู่ยังอ่อนแอมาก