เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างพรกุศลระยองและชาวบ้านเข้าช่วยเหลือลากรถตู้คันหนึ่งที่ถูกกระแสน้ำพัดตกจากถนนสาย 36 ฝั่งขาออกเมืองระยอง เมื่อเช้ามืดของวันจันทร์ (12 ก.ย.) และยังมีรถเก๋ง จมน้ำเกือบมิดคัน

เจ้าหน้าที่ต้องใช้เชือกลากขึ้นจากน้ำ เป็นเหตุการณ์ ที่เกิดขี้นหลังจากได้เกิดฝนตกมาอย่างหนักในพื้นที่เขตอำเภอเมืองระยอง ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา จนทำให้มวลน้ำจำนวนมากไหลเอ่อเข้าท่วมผิวถนนสาย 36 ตอนมาบข่า-ทับมา ช่วงระหว่าง กม.42+300 ถึง กม.42+800 ระยะกว่า 400 เมตร

เจ้าหน้าที่กู้ภัยคนหนึ่ง กล่าวว่า รถที่กำลังให้ความช่วยเหลืออยู่นี้เป็นรถหนึ่งในจำนวนร่วมนับสิบคันที่ได้ถูกกระแสน้ำที่เอ่อท่วมถนนพัดตกร่องน้ำริมถนนและกลางถนน บางคันเครื่องน็อกดับกลางกระแสน้ำบนถนน ไม่สามารถไปต่อได้ เนื่องจากระดับในช่วงนั้นสูงเกือบ 1 เมตรและกระแสน้ำไหลเชี่ยวพัดผ่านถนนทั้ง 2 ฝั่งทั้งฝั่งขาเข้าและออกเมืองระยอง

ไม่ใช่แค่นั้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้รถยกสูงโฟร์วิลเข้าชักลากขึ้นมาจากน้ำ ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหายทุกคัน เช่นเดียวกับรถยนต์เก๋งฮอนด้าสีบรอนซ์คันหนึ่ง และรถตรวจสุขภาพเคลื่อนที่อีกคนน ที่ถูกกระแสน้ำพัดลอยไปกับน้ำ โชคดีที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าช่วยเหลือนำคนในรถออกมาได้ทัน ก่อนรถจะถูกกระแสน้ำพัดไป

หลังจากเกิดน้ำท่วมเอ่อผิวถนน ทางแขวงการทางหลวงระยอง สั่งปิดการจราจรเด็ดขาดทันที ห้ามทั้งรถใหญ่และเล็กวิ่งผ่าน เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวและมีระดับสูง เกรงจะได้รับอันตราย ทำเอาการจราจรบนถนนสาย 36 ซึ่งเป็นช่วงคนเดินทางออกไปทำงานทั้งโรงงานในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ รถแออัดติดขัดยาวเหยียดหลายกิโลเมตร

เหตุนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกันรถให้ใช้ทางเบี่ยงสายสุขุมวิทแทนทั้งขาเข้าขาออกตัวเมืองระยอง

ล่าสุด สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มลดลง พันตำรวจเอก อภินันท์ วัฒนวรางกูร ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง นำตำรวจจิตอาสา 15 นาย รถตำรวจทางหลวงระยอง 2 คัน เจ้าหน้าที่แขวงการทาง มาอำนวยความสะดวกแก่ผู้สัญจรไปมาและแนะนำการขับขี่แก่รถที่มุ่งหน้าไปเมืองพัทยา จ.ชลบุรี 

ด้านเทศบาลตำบลทับมานำเครื่องจักรมาขุดเปิดทางสิ่งของที่ขวางทางน้ำ

ขณะเดียวกัน ตำรวจยังห้ามรถเก๋งรถเล็กห้ามไปจะทำให้รถเสียหาย เพราะระยะทางถนนที่น้ำท่วมสูงยาวถึง 400เมตร และจะดูแลจนกว่าน้ำจะลดลง