นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (25 พ.ค.) ถึงเหตุผลที่พรรคก้าวไกลต้องได้ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่ามีความจำเป็น 3 ด้านดังนี้

ดันกฎหมาย-แก้รัฐธรรมนูญ-โปร่งใส

รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เผยว่า ด้านแรกคือการผลักดันร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกล 45 ฉบับ ร่างกฎหมายจากพรรคการเมืองอื่น และร่างกฎหมายที่ภาคประชาชนเสนอ

“นอกเหนือไปจากการที่เราต้องใช้อำนาจฝ่ายบริหารแล้ว เรายังมีอีก 3 วาระนะคะ ที่จำเป็นที่จะต้องได้ตำแหน่งประมุขในฝ่ายนิติบัญญัติเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันกฎหมายทั้ง 45 ฉบับของพรรค เพื่อให้ได้ทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงเอาไว้ รวมถึงกฎหมายของพรรคการเมืองอื่นหรือกฎหมายที่เสนอโดยประชาชนนะคะ ก็จะสามารถทำได้อย่างรวดเร็วนะคะ” นางสาวศิริกัญญา กล่าว

ต่อมา นางสาวศิริกัญญา เผยว่า ด้านต่อมาคือการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคการเมือง 8 พรรคเห็นตรงกันและถูกระบุในบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ของทั้ง 8 พรรคแล้ว และประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ทำหน้าที่ประธานรัฐสภานั้นจะต้องมีเจตจำนงที่แน่วแน่ เพราะจะต้องควบคุมการประชุมระหว่างสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาหลายครั้งในการพูดคุยเรื่องนี้

นางสาวศิริกัญญา พูดถึงด้านต่อมาคือ การผลักดันให้เกิดรัฐสภาที่โปร่งใสและสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน เช่น การถ่ายทอดสดการประชุมกรรมาธิการและอนุกรรมาธิการแต่ละคณะ

นอกจากนี้ นางสาวศิริกัญญา เผยอีกว่า ตำแหน่งประธานรัฐสภาจำเป็นต่อการจัดตั้งสภาเยาวชน ที่วางแผนเอาไว้ว่าจะต้องขึ้นต้องกับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร การจัดตั้งสภาเยาวชนเพราะต้องการให้รัฐสภารับฟังเสียงของเยาวชนที่เป็นส่วนสำคัญต่ออนาคตของประเทศ

“จะมีการจัดตั้งสภาเยาวชนขึ้นมาเพื่อรับฟังเสียงของเยาวชนที่อาจจะยังไม่มีสิทธิเลือกตั้งในปัจจุบันนะคะ แต่ว่าเสียงของพวกเขาก็มีความสำคัญและก็จำเป็นที่จะต้องจัดตั้งและมีที่ทางเพื่อให้เขาได้แสดงออกนะคะ”

มั่นใจเพื่อไทยร่วมรัฐบาลต่อ

นางสาวศิริกัญญา เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะยังร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลและพรรคอื่นๆ ต่อไป แม้ไม่ได้ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรตามที่มีกระแสข่าวสะพัดตลอดหลายวันที่ผ่านมา

“พรรคเพื่อไทยน่าจะเล็งเห็นว่าความหวังที่พี่น้องประชาชนมอบให้นะคะ ในการที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จลุล่วงน่าจะมีความสำคัญค่ะ แล้วก็เรื่องนี้ก็จะเป็นเรื่องที่จะได้พูดคุยเจรจากันในภายหลังต่อไปนะคะ ดิฉันก็ยังมั่นใจว่ายังไงพรรคเพื่อไทยเนี่ยก็จะอยู่ร่วมรัฐบาลกับเราต่อไม่ว่าจะมีตำแหน่งประธานสภาหรือไม่ก็ตามค่ะ” นางสาวศิริกัญญาตอบคำถามสื่อมวลชน

“ตอนนี้เนี่ยเราไม่มีความเชื่อใดๆ ว่าพรรคเพื่อไทยจะถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลในครั้งนี้”

รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลรายนี้ไม่เชื่อว่าการผิดข้อตกลงหรือ “แทงข้างหลัง” จากพรรคก้าวไกลจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน และจะยึดถือตามที่ระบุในเอ็มโอยูว่าจะซื่อสัตย์และจริงใจต่อกัน

นางสาวศิริกัญญามองว่า พรรคที่ได้ ส.ส. มากเป็นอันดับ 1 นั้นไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แม้มีข้อเรียกร้องจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางคนว่าพรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประมุขของฝ่ายบริหารไปแล้วควรให้ตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติแก่พรรคเพื่อไทย

  • อดิศร เพียงเกษ แนะก้าวไกลอย่ากินรวบประธานสภาฯ ขู่ไม่มีเพื่อไทยเดินต่อไม่ได้
  • เปิด 11 รายชื่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่ปี 2535 ไม่ใช่พรรคใหญ่สุดแค่ 1 คน

นางสาวศิริกัญญา ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลยังคงยึดการแบ่งตำแหน่งตามวาระและนโยบายที่ต้องการผลักดัน จึงจำเป็นต้องได้ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร