วันที่ 5 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้รับการติดต่อขอความช่วยเหลือจาก นายเรืองโรจน์ อายุ 30 ปี อาชีพช่างซ่อมประตูรถยนต์ว่า เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา น้องชายของตน ชื่อ นายพงษ์ศิริ อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษาปีที่ 4 สาขานิเทศศาสตร์ ซึ่งกำลังเตรียมรอรับปริญญา ได้ประสบอุบัติเหตุ รถจยย.เฉี่ยวชนกับรถกระบะตู้ทึบสีขาวหลังคาสูงคันหนึ่ง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ระหว่างที่กำลังขับขี่พาแฟนสาว อายุ 25 ปีไปส่งที่บ้าน ย่านบางบัวทอง โดยเหตุเกิดที่บริเวณก่อนถึงปั้มน้ำมันมุ่งหน้าแยกไทรน้อย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จนเป็นเหตุทำให้นายพงษ์ศิริ น้องชายตนได้รับบาดเจ็บสาหัส แขนขวาขาด มีบาดแผลถลอกที่ใบหน้าและตามลำตัว เสียเลือดในที่เกิดเหตุเป็นจำนวนมาก ส่วนแฟนสาวของน้องชายได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน แขนขวาหัก กระดูกขาข้างขวาหัก มีอาการเลือดคลั่งในสมอง รอทำการผ่าตัดรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลวิภาราม ปากเกร็ด 

นายเรืองโรจน์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุแล้วน้องชายตนเองถูกส่งไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จนกระทั่งเมื่อวานนี้ทางโรงพยาบาลได้โทรมาแจ้งกับทางครอบครัวตนเองว่า น้องชายตนเกิดสภาวะสมองตาย แต่อวัยวะภายในยังทำงานเป็นปกติ เนื่องจากอายุยังน้อยและสุขภาพแข็งแรง แต่ทางโรงพยาบาลยังคงมีผู้ป่วยที่รอรับการบริจาคอวัยวะช่วยเหลืออยู่ ซึ่งจะสามารถนำไปต่อชีวิตช่วยเหลือผู้ป่วยที่รอความช่วยเหลือได้อีกหลายราย ทางครอบครัวจึงมีความเห็นตรงกันว่า หากไม่สามารถยื้อชีวิตน้องชายเอาไว้ได้แล้ว ก็บริจาคอวัยวะภายในต่างๆ ไปช่วยเหลือผู้อื่นตามที่แพทย์แนะนำเพื่อเป็นผลบุญสุดท้ายที่น้องชายจะได้สร้างไว้ ซึ่งหลังจากการบริจาคอวัยวะภายในเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ทางครอบครัวก็จะรับร่างของน้องชายมาตั้งสวดพระอภิธรรมศพตามประเพณีต่อไป

นายเรืองโรจน์ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ตนต้องมาร้องขอความเป็นธรรมจากผู้สื่อข่าว เป็นเพราะหลังเกิดเหตุทางครอบครัวยังคงทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ตนต้องหยุดงาน เพื่อออกมาหาความจริงว่า น้องชายของตนเองเกิดอุบัติเหตุได้อย่างไร

จนกระทั่งมาพบกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุเอาไว้ได้คือ มีรถกระบะตู้ทึบสีขาวคันหนึ่งซึ่งมองเห็นทะเบียนไม่ชัดเจน จอดรถเกยขอบเกาะกลางถนนโดยไม่เปิดสัญญานไฟกระพริบแจ้งเตือน ซึ่งเป็นจังหวะที่น้องชายตนเองขับขี่รถ จยย.โดยมีแฟนสาวซ้อนมา ปรากฎว่าระหว่างที่น้องชายตนพยายามจะเบี่ยงซ้ายเพื่อหลบรถกระบะที่จอดอยู่เลนขวาสุดติดเกาะกลางถนน ปรากฎว่ามีรถเก๋งสีส้มวิ่งมาในเลนกลางพอดีด้วยความเร็ว ทำให้รถ จยย.ของน้องชายตนหักหลบออกไปไม่พ้น พุ่งชนเข้ากับท้ายรถกระบะทึบคันสีขาวอย่างแรง จนเป็นเหตุทำให้น้องชายตนกับแฟนสาวได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทั้งสองคน

ส่วนรถกระบะตู้ทึบคันสีขาวและรถเก๋งคันสีส้ม หลังเกิดเหตุต่างขับแยกย้ายหลบหนีไป โดยไม่แสดงความรับผิดชอบลงมาดูหรือช่วยเหลือในที่เกิดเหตุเลยแม้แต่นิดเดียว ทำให้ตนต้องลางานเพื่อมาติดตามเพื่อหาความยุติธรรมให้น้องชายกับแฟนสาว

ตนจึงความช่วยเหลือจากผู้ขับขี่ที่มีกล้องหน้ารถในคืนที่เกิดเหตุเพื่อให้ช่วยขี้เบาะแสรถคู่กรณีทั้งสองคันคือรถกระบะตู้บสีขาวและรถเก๋งสีส้ม ออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่ขึ้นด้วย เนื่องจากรถกระบะจอดในช่งขวาสุดโดยไม่มีสาเหตุซึ่งผิดกฏหมาย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทองอยู่ระหว่างตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อหาหมายเลขทะเบียนรถกระบะและรถเก๋งคันสีส้ม ซึ่งพอจะรู้เบาะแสบ้างแล้ว จึงอยากให้เจ้าของรถทั้ง 2 คันติดต่อเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสอบปากคำ