กรมชลประทาน ย้ำน้ำปี 65 ไม่ท่วมเหมือนปี54 ยังเฝ้าระวังปริมาณฝนอย่างใกล้ชิด

นายธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา เปิดเผยกรณีหลายภาคส่วนมีความกังวลว่าจะเกิดน้ำท่วมหนักเหมือนปี2554 โดยยืนยันว่า 4 เขื่อนหลักลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ยังสามารถ รับน้ำได้อีก 1 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร แตกต่างกับปี54 ที่ในช่วงนี้เหลือเพียง3,000ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ยังสามารถกักเก็บน้ำได้อีกมาก ประกอบกับปริมาณฝนในปีนี้ ถ้าเทียบกับปี54 ยังแตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญ

และปีนี้ ยังไม่มีพายุเข้ามาที่ประเทศไทยเหมือนปี 54 ที่เข้ามาพร้อมกันหลายลูกส่งผลให้เขื่อนและพื้นที่รับน้ำไม่เพียงพอและต้องระบายน้ำท้ายเขื่อนจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ดียังต้องเฝ้าระวังในอีก 1 เดือนหลังจากนี้ว่าจะมีพายุเพิ่มหรือไม่ รวมถึงดูน้ำเหนือที่จะมาเติมด้วย ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กล่าวว่าทางกรมชลประทาน ยังได้ร่วมระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่เป็นเขตรอยต่อกับกทม.ในหลายพื้นที่

เช่น ลาดกระบัง มีนบุรี หนองจอก โดยการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำจากคลองน้อยลงสู่คลองใหญ่ ซึ่งหลังติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำแล้วก็ช่วยทำให้ระดับน้ำที่ลาดกระบังลดลงอย่างรวดเร็วหากช่วง 3-4 วันนี้ฝนไม่ตกมาเติมจะสามารถพร่องน้ำได้ และกรมชลประทาน ยังต้องติดตามเฝ้าระวังพื้นที่ที่อยู่ท้ายเขื่อนอย่างใกล้ชิด

โดยจะไปวิเคราะห์สถานการณ์ และการระบายน้ำไม่ให้ส่งผลกระทบประชาชนมากที่สุด ทั้งนี้ หากปริมาณฝนตกไม่เกินค่าเฉลี่ยสามารถรับมือได้ แต่หากตกเกินก็มีความจำเป็นที่จะต้องระบายออก พร้อมยืนยันว่า กรมชลประทานมีการประสานงานกับ กทม.และพื้นที่รอยต่อปริมณฑลอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ทาง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม., รศ.ดร. เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ ม.รังสิตและกรมชลประทาน ยังได้ร่วมกันลงเรือเพื่อตรวจดูจุดฟันหลอบริเวณคลองมหาสวัสดิ์ ในการวางแนวทางป้องกันน้ำท่วมด้วย